ทัวร์ถ่ายภาพยอดนิยมและเวิร์คช็อป
เดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุด
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาอันแสนวิเศษของประเทศไอซ์แลนด์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่สิ่งต่างๆ เริ่มผ่อนคลายจากช่วงฤดูหนาวอันยาวนาน ช่วงกลางวันที่สั้นลงและความมืดที่ทำให้กลายเป็นช่วงกลางคืน นัทำให้ช่วงฤดูนี้เป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบสำหรับการออกล่าแสงเหนือ
ในทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นภูมิภาคที่คุณจะได้พบกับภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ที่เต็มไปด้วยน้ำตกที่มีเสียงดังกึกก้อง ชายหาดภูเขาไฟสีดำ หน้าผาที่น่าทึ่ง ชายฝั่งทะเลที่ตระการตา ยอดเขารูปร่างขรุขระ และปลายน้ำแข็งที่ดูน่าเหลือเชื่อ ในระหว่างทัวร์นี้คุณจะได้เยี่ยมชมสถานที่สำคัญที่เป็นแลนด์มาร์ค ไปจนถึงอัญมณีที่ถูกซ่อนไว้นอกเส้นทาง ธรรมชาติเหล่านี้ได้สร้างฉากหน้าที่น่าสนใจ ภายใต้บรรยากาศแห่งแสงสีของแสงเหนือ
ที่พักของคุณทั้ง 3 คืนในช่วงระยะเวลาของทัวร์จะถูกจองไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับยานพาหนะที่ใช้เดินทางเพื่อไปยังสถานที่ต่างๆ ที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ตลอดจนการทำเวิร์คช็อป ซึ่งไกด์ถ่ายภาพผู้เชี่ยวชาญของคุณจะนำคุณไปยังสถานที่ที่ดีที่สุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพภูมิทัศน์ของประเทศไอซ์แลนด์และช่วยจับตาดูสภาพอากาศและลักษณะของแสงเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะอยู่ในจุดที่ดีที่สุดเพื่อการถ่ายภาพที่ดีที่สุด พวกเขาจะแบ่งปันความรู้ให้กับคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพที่หลากหลาย ตั้งแต่การเรียนรู้วิธีการใช้กล้องทั้งในและนอกสถานที่ ไปจนถึงการเรียนรู้เทคนิคการพัฒนาภาพถ่ายหลังจากการถ่ายภาพซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะเป็นการเพิ่มทักษะการถ่ายภาพของคุณได้อย่างแน่นอน
ไม่ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่คุณได้จับกล้องถ่ายภาพ หรือคุณเป็นช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการเพิ่มผลงานในแฟ้งสะสมของคุณ เวิร์คช๊อปนี้จะนำคุณไปยังจุดสุดยอดไฮไลท์อันที่น่าทึ่งมากมายภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) รวมถึงสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย
ใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ให้คุ้มค่า เพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์อันงดงามของประเทศที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง! สามารถตรวจสอบโปรแกรมของคุณได้ด้วยการเลือกวันเดินทาง
สถานที่แรกของคุณได้แก่น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์และน่าหลงใหล น้ำตกที่สวยงามแห่งนี้มีต้นกำเนิดมาจากภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) ที่อยู่ลึกลงไปใต้ธารน้ำแข็ง ที่เคยก่อให้เกิดปัญหาการจราจรทางอากาศไปทั่วยุโรปจากการปะทุในช่วงปี 2010 น้ำตกแห่งนี้ตกลงมาจากที่ความสูงประมาณ 60 เมตร ลงสู่แม่น้ำแคบๆ ด้านล่าง น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ทำให้เกิดภาพที่งดงาม มีองค์ประกอบหลายอย่างที่คุณสามารถพบได้ที่นี่ ท่ามกลางใบไม้และพรรณไม้ที่ล้อมรอบน้ำตกแห่งนี้ อีกทั้งคุณยังมีโอกาสที่จะได้ถ่ายภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจากจุดชมวิวภายในถ้ำด้านหลังน้ำตกด้วย
ในบริเวณใกล้เคียง ยังมีน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ที่มีชื่อเสียง ที่คุณจะได้เห็นสายรุ้งที่งดงาม ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีแสงแดดก็มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้เห็นสายรุ้งท่ามกลางละออกน้ำ ที่กระเด็นออกมาจากม่านน้ำอันกึกก้อง คุณสามารถเดินไปจนถึงฐานของน้ำตกแห่งนี้ แม้ว่าคุณจะต้องเปียกแฉะสักเล็กน้อย! แต่ที่นี่ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฝึกถ่ายภาพด้วยเลนส์เทเลโฟโต้ และใช้ประโยชน์จากคน เพื่อให้เกิดความรู้สึกของการวัดขนาด
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่า (Vík) เพื่อเดินทางไปชมหน้าผาดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) อันงดงาม และหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) กองหินทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่ทำให้เกิดภาพที่งดงาม ที่ถูกล้อมรอบด้วยเสาหินบะซอลต์สูงทางด้านซ้าย และคลื่นอันปั่นป่วนของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือในทางด้านขวา
จากที่นั่นคุณจะได้เดินทางจากชายฝั่งตอนใต้ และตรงไปยังอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล เพื่อไปยังที่พักของคุณในตอนเย็น คุณอาจมีโอกาสที่จะได้ออกไล่ล่าแสงเหนือในคืนนี้ หรือคุณจะมีเวลาในการจัดการกับภาพถ่ายของคุณจากช่วงกลางวัน พร้อมรับคำติชมที่มีค่าจากไกด์ของคุณ
คุณจะได้ใช้เวลาทั้งคืนในที่พักบริเวณใกล้เคียง
ติดกับทะเลสาบธารน้ำแข็งได้แก่ ไดมอนด์บีชที่ซึ่งภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้ถูกซัดขึ้นฝั่ง การถ่ายภาพในเซสชั่นครั้งแรกของคุณบนแนวชายฝั่งอันน่าทึ่งนี้อาจจะยุ่งยากสักหน่อย แต่คุณรู้สึกสนุกมากขึ้นในไม่ช้า คุณจะได้มีโอกาสที่จะกลับมาที่นี่อีกในวันถัดไป อะดรีนาลีนของคุณจะได้เริ่มทำงาน เนื่องจากความตื่นเต้นที่คุณจะได้ชมคลื่นที่ซัดภูเขาน้ำแข็งในขณะที่ม้วนเป็นวงกลมและถอยหลังกลับไปในมหาสมุทร และนี่ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งประสบการณ์นี้จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้นในสภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงของแสง ธรรมชาติเหล่านี้จะดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงท่ามกลางสภาพอากาศอันแสนพิเศษมากที่จะทำให้ภาพของคุณดูมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น
ไกด์ถ่ายภาพของคุณอาจนำคุณไปยังสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศระหว่างวัน เนื่องจากวันนี้คุณจะได้ถ่ายภาพสีสันของฤดูใบไม้ร่วงจำนวนมากจากภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล จากภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ไปจนถึงทะเลสาบธารน้ำแข็ง และน้ำตกที่ซ่อนอยู่ และมีให้เลือกมากมาย ดังนั้นจงเตรียมตัวให้พร้อมกับการถ่ายภาพแห่งความทรงจำ สถานที่ถ่ายภาพที่คุณจะได้ไปถ่ายภาพรวมถึง ยอดเขาลักษณะขรุขระ และเนินทรายสีดำที่ภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) รวมถึงน้ำแข็งส่องประกายอยู่ตรงขอบของธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svínafellsjökull)
ในช่วงเย็น หากแสงเหนือเต้นรำอยู่ทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน ก็นับว่าคุณได้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการถ่ายภาพแสงเหนือที่ส่องประกาย และสะท้อนอยู่บนผิวน้ำลึกของทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
คุณจะพักผ่อนในคืนที่สองในที่พักบริเวณใกล้เคียง
หลังจากนั้นคุณจะได้มีโอกาสในการออกสำรวจสถานที่หลายแห่งภายในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ และอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลในส่วนที่เหลือ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยเมื่อวานนี้ ซึ่งในวันนี้อาจจะดีขึ้น ในตอนที่คุณกลับไปยังสถานที่บางแห่ง เพื่อฉวยโอกาสครั้งที่สองในการถ่ายภาพอันงดงามของบริเวณนี้
ในขณะที่คุณเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านชาวประมงวิกบนชายฝั่งทางใต้ คุณอาจจะได้หยุดแวะที่หุบเขารูปขนนกที่ชุ่มฉ่ำ และเขียวขจีที่รู้จักกันในชื่อว่าฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) หรือออกไปถ่ายภาพของคลื่นที่กำลังซัดสาดชั้นหินทะเลเรนิสแดรงเกอร์ในจุดชมวิวที่แตกต่างกัน
ในตอนเย็นคุณจะได้ฝึกสายตาของคุณในการจ้องมองขึ้นไปยังท้องฟ้าอีกครั้ง เพื่อค้นหาแสงเหนือ
คุณจะได้เข้าพักคืนนี้ที่หมู่บ้านวิก
ทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่าอะไรที่ทำให้ประเทศไอซ์แลนด์ได้รับฉายาว่า "ดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง" เนื่องจากนี่บริเวณนี้มีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาจากพื้นโลก ที่เกิดจากกิจกรรมของพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งไฮไลท์นี้จะต้องทำให้คุณรู้สึกประทับใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อคุณมีโอกาสได้ถ่ายภาพไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ที่มีการปะทุน้ำพุร้อนขึ้นสูงถึง 20 เมตรสู่ท้องฟ้า!
จากที่นั่น คุณจะได้เดินทางต่อไปยังน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งชื่อของน้ำตกแห่งนี้มีความหมายว่า "น้ำตกทองคำ" และคุณจะเข้าใจในไม่ช้าว่าถึงความหมายของน้ำตกแห่งนี้ ซึ่งหากมีแสงของดวงอาทิตย์ส่องมา ชั้นของน้ำตกอันทรงพลังแห่งนี้จะส่องสว่างคล้ายกับสีของทองคำ โดยเฉพาะในขณะที่น้ำไหลลงมาจากหน้าผาชันลงสู่หุบเขาเบื้องล่างที่ดูงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ
ในที่สุดคุณก็จะได้มาถึงอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์ และทางธรณีวิทยา ที่นี่คุณจะได้เห็นการแยกตัวของแผ่นเปลือกโลก ระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและอเมริกาเหนือ ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยแยก แม่น้ำและบ่อน้ำ คุณจะได้พบกับองค์ประกอบสำหรับภาพถ่ายของคุณมากมายที่นี่ นั่นรวมถึงภาพมุมกว้างของธิงวาลลาวาท์น (Þingvallavatn) ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และน้ำตกอ๊อกซาร่าฟอสส์ (Öxarárfoss) อันทรงเสน่ห์ที่ถูกรายล้อมไปด้วยแนวหน้าผาอันมืดมิด
คุณจะเดินทางถึงเมืองเรคยาวิกในช่วงเย็นโดยไกด์จะส่งคุณยังที่พัก เพื่อให้ทันเวลาที่จะได้รับประทานอาหารเย็นในตัวเมือง ถึงตอนนี้เราคงไม่ต้องอธิบายว่าทำไมการ์ดหน่วยความจำกล้องถ่ายภาพของคุณถึงได้เต็มไปด้วยภาพถ่ายอันน่าอัศจรรย์ของช่วงฤดูใบไม้ร่วงในประเทศไอซ์แลนด์!
- เรามีทัวร์กลุ่มย่อยที่มีขนาดกลุ่มสูงสุด 10-12 ด้วยวิธีนี้คุณจะได้รู้จักคู่มือการถ่ายภาพของคุณและเราสามารถพาคุณไปถ่ายภาพในสถานที่ที่ไม่เหมือนใครซึ่งไม่เหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่
- ลูกทัวร์ของเราทุกคนจะได้รับวิดีโอคอลเลกชันหลังจากการประมวลผล ฟรี จากช่างภาพที่ได้รับรางวัลของเรา ที่มีมูลค่ากว่า 1,500 ดอลลาร์
- ในทัวร์นี้ เราได้ใช้ยานพาหนะที่สะดวกสบายในการขนส่งคุณ เพื่อไปยังสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างปลอดภัย
- เราใช้เฉพาะโรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์
- ไกด์ทัวร์ถ่ายภาพและเวิร์กช็อปของเราเป็นช่างภาพมืออาชีพที่ได้รับรางวัล
- เราให้บริการอุปกรณ์กันลื่นรองเท้าและรองเท้าบูทให้กับลูกทัวร์ของเราฟรีตลอดการเดินทาง.
- ในระหว่างทัวร์ เราจะให้คำแนะนำและข้อมูลพร้อมทั้งการบรรยายสรุปที่สามารถทำตามได้ง่าย
- ไกด์ถ่ายภาพของเราจะให้ช่วยคุณในการถ่ายภาพในสถานที่จริง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้นำรูปถ่ายที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ติดมือกลับบ้านไปด้วย.
เราขอแนะนำให้คุณนำประกันการท่องเที่ยว และ ประกันแพทย์มาด้วย. ประกันการแพธย์จากรัฐบาลในประเทศ และ ประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชนของคุณ จะไม่รองรับเมื่อคุณอยู่ต่างประเทศ. ทัวร์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และ สภาพอากาศในประเทศไอซ์แลนด์นั้นไม่สามารถคาดเดาได้. เหมือนกับการเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และ ถ้ำน้ำแข็งนั้นไม่คงที่. เมื่อพูดถึงแสงเหนือนั้น พวกเขาสามารถเห็นได้ในเดือน กันยายน ไปถึง เดือน เมษายน แต่ไม่มีการการันตี ว่าพวกเขาจะปรากฎในวันที่เลือก.
3-6 กันยายน 2020 14-17 กันยายน 2020 17-20 กันยายน 2020 8-11 ตุลาคม 2020 15-18 ตุลาคม 2020