กิจกรรมถ่ายภาพสองสัปดาห์ช่วงฤดูหนาวแบบครบถ้วนในประเทศไอซ์แลนด์

มีแนวโน้มที่จะขายหมดในเร็วๆ นี้
ไม่คิดค่ายกเลิก.
บริการ 24 ชั่วโมง
การันตีราคาที่ดีที่สุด

คำอธิบาย

สรุป

ทัวร์เริ่มจาก
Reykjavík, Iceland
ระยะเวลา:
14 วัน
Ending place
Reykjavík, Iceland
ภาษา:
English
ความยากลำบาก:
ง่าย
ที่มีอยู่:
ก.พ. - มี.ค.
อายุต่ำสุด:
อายุ 18

คำอธิบาย

ร่วมเดินทางไปกับทัวร์ถ่ายภาพ 14 วันในช่วงฤดูหนาวในอีกแบบของประเทศไอซ์แลนด์และคุณจะได้มีโอกาสในการถ่ายภาพแสงเหนือทั่วทุกมุมของประเทศไอซ์แลนด์ กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะเที่ยวชมทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์พร้อมกับการพัฒนาทักษะการใช้กล้องถ่ายภาพและสะสมผลงานที่น่าประทับใจ.

ทัวร์นี้เป็นทัวร์ถ่ายภาพประเทศไอซ์แลนด์ที่ครอบคลุมที่สุดและครอบคลุมไปถึงสถานที่ที่งดงามจำนวนมาก คุณจะได้ท่องเที่ยวเดินทางอย่างสะดวกสบายดัวยรถบัสแบบพิเศษและรถซุปเปอร์จี๊ปที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อที่คุณจะเดินทางไปยังสถานที่ที่สวยงามที่สุด.

ประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาวเป็นดินแดนน้ำแข็งที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและก้อนน้ำแข็งทำให้ทิวทัศน์ที่สวยงามสำหรับการถ่ายภาพ คุณจะได้ชมธารน้ำแข็งที่น่าตื่นตา, ถ้ำน้ำแข็งที่น่ามหัศจรรย์, น้ำตกแช่แข็ง, ภูเขาตระหง่าน, ชายฝั่งทะเลที่ยิ่งใหญ่, พื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่มีพลังอำนาจและหมู่บ้านชาวประมงที่แปลกตา เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างไฮไลท์เล็กน้อย.

เป็นไปได้ที่จะสามารถขับรถไปรอบๆประเทศไอซ์แลนด์โดยใช้เส้นทางสายที่ 1 บนถนนวงแหวนที่มีชื่อเสียง และหยุดแวะในสถานที่ที่มีชื่อเสียงรวมถึงสถานที่ที่ถูกซ่อนไว้ อีกทั้งคุณจะได้ใช้เวลา 2 วันในการสำรวจคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ที่น่ามหัศจรรย์ และที่นี่มักจะถูกเรียกอีกชื่อว่าเป็น "ประเทศไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติจำนวนมากที่นี่.

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้ท่องเที่ยวพร้อมถ่ายภาพรอบๆประเทศไอซ์แลนด์ขณะที่เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆจากความช่วยเหลือของไกด์ที่เคยชนะรางวัล ที่จะช่วยให้คุณเพิ่มทักษะในการถ่ายภาพให้สูงขึ้น คุณจะได้ใช้เวลาตลอดทั้งสองสัปดาห์ในการเฝ้าดูแสงเหนือ พร้อมทั้งคำแนะนำอย่างมืออาชีพในการถ่ายภาพแสงเหนือให้สวยที่สุดจากกล้องถ่ายภาพ ทัวร์นี้เหมาะสำหรับทั้งช่างภาพมือสมัครเล่นและช่างภาพที่มีประสบการณ์ด้วยเช่นกัน.

หลงไหลกับความงดงามของประเทศไอซ์แลนด์และสมัครกิจกรรม 14 วันในการถ่ายภาพในช่วงฤดูหนาวเพื่อเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตและถ่ายภาพที่สุดยอดเพื่อพิสูจน์ ตรวจสอบโปรแกรมโดยเลือกวันเดินทางของคุณ.

อ่านเพิ่ม

รวมในแพ็คเกจ

ไกด์ถ่ายภาพมืออาชีพ
การเดินทางด้วยพาหนะที่สะดวกสบาย
ที่พักในโรงแรมหรือเกสท์เฮ้าส์ ห้องพร้อมห้องน้ำส่วนตัว.
อาหารเช้าทุกมื้อและอาหารเย็นร่วมกันในวันแรกและวันที่13.

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

กิจกรรม

แสงเหนือ
ทัวร์ถ่ายรูป
เวิร์คช็อปถ่ายรูป

แผนการเดินทางรายวัน

วัน 1
บ่อน้ำทยอร์นนินในใจกลางเมืองเรคยาวิกแข็งตัวในช่วงฤดูหนาวและให้ความรู้สึกโรแมนติกเมื่อถูกปกคลุมด้วยหิมะ.

วัน 1 - เดินทางมาถึง

ในวันที่เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติเมืองเคฟราวิก (Keflavík) คุณจะได้ใช้บริการรถรับ-ส่งสนามบินที่สะดวกสบายและรวดเร็วไปยังเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) ทันทีที่คุณเข้ามาถึงในเมือง คุณจะได้พบกับผู้ร่วมเดินทางและไกด์ที่ล็อบบี้ของโรงแรมของคุณ จากที่นั่นคุณจะได้ออกไปรับประทานอาหารเย็นในร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้นและพูดคุยเกี่ยวกับการผจญภัยรอบๆประเทศไอซ์แลนด์ที่กำลังจะมาถึง.
อ่านเพิ่ม
วัน 2
ม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์คลอเคลียซึ่งกันและกันอยู่ภายใต้ภูเขาเคิร์คจูแฟสที่งดงามตระการตา.

วัน 2 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสในไอซ์แลนด์ตะวันตก

รถจะไปรับคุณในเมืองเรคยาวิกตั้งแต่แปดโมงเช้า คุณจะได้เริ่มทัวร์ด้วยการเดินทางไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสในไอซ์แลนด์ตะวันตก ที่คุณจะได้ใช้เวลาสองคืนในการสำรวจภูมิภาคที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ. คุณจะได้มีโอกาสในการถ่ายภาพการก่อตัวของหินที่แหลมคมและแนวหินบะซอลต์ในชายฝั่งของอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆที่แปลกตาที่ซึ่งคุณจะได้ชมคลื่นมหาสมุทรกระทบกับชายฝั่ง ภายใต้แสงที่งดงาม ทำให้เกิดภาพที่น่าตื่นตา. โบสถ์ปูดิร์ (Búðir) หลังคาสีดำจะเป็นจุดหมายปลายทางถัดไปของคุณพร้อมกับถ่ายภาพที่นี่ หิมะจำนวนมากได้ปกคลุมภูเขาไฟธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsnesjökul) ที่เป็นฉากหลังที่งดงามให้กับอาคารที่สวยงามและทำให้เกิดสีที่ตัดกันอย่างน่ามหัศจรรย์. เพื่อที่จะจบวันนี้ คุณจะได้เดินทางไปยังฝั่งทางเหนือของเกาะเพื่อที่จะสำรวจภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) หนึ่งในภูเขาที่สวยที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ที่มีรูปร่างเหมือนกรวยและเป็นเนินเขา ด้วยความหวังว่าแสงเหนือจะเกิดขึ้นคืนนี้ในสถานที่ที่งดงามเพื่อที่คุณจะได้ถ่ายภาพแสงเหนือขณะกำลังเต้นรำอยู่บนท้องฟ้าด้านหลังภูเขาเคิร์คจูแฟส. คุณจะได้ใช้เวลาในช่วงเย็นวันนี้ในที่พักในเมืองเรคยาวิก.
อ่านเพิ่ม
วัน 3
ภูเขาเคิร์คจูแฟสเปลี่ยนภาพลักษณ์ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองจากมุมไหน.

วัน 3 - ภูเขาเคิร์คจูแฟส

วันนี้คุณจะได้ทำการสำรวจสไนล์แฟลซเนสต่อ เที่ยวชมในพื้นที่ที่คุณยังไม่ได้ดื่มด่ำในวันก่อนอย่างเต็มที่ คุณจะได้สำรวจและถ่ายภาพช่ายฝั่งที่แปลกตาที่ถูกแต่งแต้มด้วยหมู่บ้านชาวประมง ฟยอร์ด (fjords) เขียวชอุ่มที่โดดเด่นรอบๆบริเวณนี้. เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อที่จะได้ถ่ายภาพที่น่ามหัศจรรย์ของโลนตรังการ์ (Lóndrangar) และภูเขาไฟหินบะซอลต์โบราณที่โผล่ท้าทายคลื่นขึ้นมาจากมหาสมุทร. คุณจะใช้เวลาในคืนนี้อีกคืนในที่พักบริเวณคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส.
อ่านเพิ่ม
วัน 4
การก่อตัวของหินฮวิทแซร์คูร์เป็นแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพมากมายที่มาท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ ไกด์ของคุณจะบอกวิธีที่ทำให้คุณถ่ายภาพได้สวยที่สุด.

วัน 4 - ชั้นหินฮวิทแซร์คูร์

ในวันนี้ เราจะได้มุ่งหน้าไปทางเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ไปยังผืนป่าและคาบสมุทรวาท์นสเนส (Vatnsnes) ที่อยู่ห่างไกล และเป็นที่รู้กันว่าที่ดินส่วนใหญ่ไม่มีผู้อยู่อาศัย ที่ซึ่งคั่นด้วยเนินหินและถูกปกคลุมด้วยหิมะทั่วบริเวณ. มีม้าจำนวนมากในบริเวณนี้ และเหมือนว่าคุณจะได้มีโอกาสที่จะได้เห็นและได้ถ่ายภาพฝูงม้าเหล่านี้ภายใต้ขนที่เป็นเหมือนเสื้อกันหนาว ขณะที่คุณตรงไปยังฝั่งตะวันออกของคาบสมุทร คุณอาจจะได้พบกับฝูงแมวน้ำที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างธรรมชาติตามแนวชายฝั่งของภูมิภาคแสตนดิร์ (Strandir) ในทางฟยอร์ดทางตะวันตก (Westfjords). ศูนย์กลางหายไปจากแสงกลางวัน อย่างไรก็ตามตรงกลางจะมีการก่อตัวของหินฮวิทแซร์คูร์ (Hvítserkur) ที่เป็นแนวหินบะซอลต์สูง 15 เมตรจากทะเลและบางคนกล่าวว่าที่นี่มองดูเหมือนมังกรกำลังกินน้ำ หรือหากมองจากอีกมุมก็เป็นเหมือนโทรลขนาดใหญ่. เนื่องจากในตำนานฮวิทแซร์คูร์เป็นซากโทรลที่ยังหลงเหลือและถูกจับได้ในเวลากลางวันและกลายเป็นหิน หินลึกลับนี้เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพและไกด์ของคุณจะต้องแน่ใจว่าคุณจะมาถึงทันเวลาที่จะได้แสงที่ดีทีสุดเท่าที่จะทำได้. คุณจะได้ใช้เวลาในเย็นนี้ในที่พักบริเวณคาบสมุทรวาท์นสเนส.
อ่านเพิ่ม
วัน 5
น้ำตกโกดาฟอสส์มีลักษณะคล้ายกับสัตว์ประหลาดที่มีตะปุ่มตะป่ำในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากจุดเยือกแข็งของสถานที่.

วัน 5 - โกดาฟอสส์ & ทะเลสาบมิวาท์น

หลังจากรับประทานอาหารแต่เช้า คุณจะได้เดินทางออกไปยังน้ำตกโกดาฟอสส์ (Goðafoss) เพื่อถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น ในช่วงเวลานี้ของปี "น้ำตกแห่งพระเจ้า" นี้จะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ทำให้น้ำตกมองดูความศักดิ์สิทธิ์และสวยงามยิ่งขึ้นสำหรับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น ที่นี่เป็นหนึ่งในน้ำตกที่งดงามและยอดฮิตที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์พร้อมด้วยซุ้มรูปครึ่งวงกลมที่สง่างาม. หลังจากนั้น การผจญภัยได้เริ่มต้นเพราะคุณจะได้เดินทางตรงไปยังทะเลสาบมิวาท์น (Mývatn) ที่เกิดจากการปะทุของลาวาบะซอลต์ครั้งใหญ่ทำให้เกิดพื้นที่ภูเขาไฟ, เสาลาวาและปล่องภูเขาไฟเทียมรอบๆบริเวณ. หากมีเวลาเพียงพอ คุณจะได้สำรวจประติมากรรมและการก่อตัวของหินที่มีเอกลักษณ์ในดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) นี่เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้มีโอกาสที่จะได้รับประสบการณ์กับภูมิประเทศทางธรณีวิทยา ป่านี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ส์ทางโทรทัศน์เรื่อง มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones). คืนนี้คุณจะได้เข้าพักในบริเวณทะเลสาบมิวาท์น.
อ่านเพิ่ม
วัน 6
น้ำตกอาลเดยาร์ฟอสส์ อาจจะเข้าถึงยากแต่ก็คุ้มค่าเพราะมีทิวทัศน์ที่งดงามมาก.

วัน 6 - อาลเดยาร์ฟอสส์ & ฮาฟนาบียอร์กาฟอสส์

ในวันนี้คุณจะได้เดินทางโดยรถซุปเปอร์จี๊ปเพื่อจะได้เข้าไปยังบริเวณสองน้ำตกที่สวยงามที่สุดในประเทศไอซ์ลแลนด์ในบริเวณใจกลางที่ราบสูงที่ชื่อว่า อาลเดยาร์ฟอสส์ (Aldeyjarfoss) และฮาฟนาบียอร์กาฟอสส์ (Hrafnabjargafoss) น้ำตกทั้งสองแห่งตั้งอยู่บนแม่น้ำสเกาล์ฟาดาฟยอร์ด (Skjálfandafljot). ด้วยสีสันที่ตัดกันของแนวหินบะซอลต์สีดำขนาดใหญ่ที่ความสูง 20 เมตรที่ชื่อว่า อาลเดยาร์ฟอสส์ (Aldeyjarfoss) และน้ำใสของน้ำตกที่ดูงดงามยิ่งขึ้นในตอนนี้ที่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งปกคลุมอยู่. เช่นเดียวกันกับฮาฟนาบียอร์กาฟอสส์ ที่มีความงดงามของหิมะที่เปียกโชก ค่อนข้างยากที่จะเข้าไปถึงน้ำตกเหล่านี้โดยเฉพาะบนถนนน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาว แต่ด้วยสีสันที่ตัดกันของของพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะ, น้ำตกและสระน้ำสีฟ้าใสที่ด้านล่างทำให้สถานที่นี่คุ้มค่ากับการเดินทางเข้าไปถ่ายภาพ และนั่นทำให้ที่นี่มีความพิเศษเนื่องจากน้ำตกทั้งสองแห่งไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเหมือนกับที่อื่นๆที่ง่ายกับการเดินทางไป. และคืนนี้อีกคืนที่คุณจะได้ใช้เวลาในบริเวณพื้นที่ของมิวาท์น.
อ่านเพิ่ม
วัน 7
ประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาวถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพสถานที่มาก.

วัน 7 - ทะเลสาบมิวาท์น

คุณจะได้ทำการสำรวจบริเวณนี้ต่อด้วยการไปเที่ยวชมยังบริเวณพลังงานความร้อนใต้พิภพเนามาส์การ์ด (Námskarð) ที่น่าขนลุก แม้แต่ในช่วงของฤดูหนาว บ่อโคลนเดือดก็ยังคงเดือดอยู่ และยังคงมีมวลก๊าซพุถูกปล่อยขึ้นในอากาศ ความหลากหลายของสีสันและปรากฏการณ์ตามธรรมชาติของที่นี่ร้องขอให้คุณถ่ายภาพและคุณก็จะได้มีเวลาเพียงพอที่จะทำ. คุณจะได้มีโอกาสในการเที่ยวชมยังแฮคสร์แฟลล์ (Hverfell) หนึ่งในปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 กิโลเมตร ปีนขึ้นไปยังเนินเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะเพื่อที่จะได้ประหลาดใจกับทิวทัศน์ที่งดงามของดินแดนมหัศจรรย์ช่วงฤดูหนาว และลักษณะของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่. หลังจากใช้เวลาเหลือเฟือในสถานที่นี้ คุณจะมีตัวเลือกที่จะได้โอบกอดพลังงานความร้อนใต้พิภพตามธรรมชาติของพื้นที่ในการไปเที่ยวชมยังอ่างน้ำธรรมชาติมิวาท์น ที่มักจะถูกเรียกว่าเป็นบลูลากูนของทางภาคเหนือ. คุณจะได้กลับไปยังที่พักบริเวณมิวาท์นในคืนนี้.
อ่านเพิ่ม
วัน 8
เรนเดียร์ป่าเดินทางอย่างอิสระในฟยอร์ดตะวันออกตั้งแต่ที่ชาวไอซ์แลนด์ไม่ได้มีการเลี้ยงอย่างจริงจัง.

วัน 8 - ไอซ์แลนด์ตะวันออก

เดินทางออกจากบริเวณมิวาท์น คุณจะได้เดินทางตรงไปยังทางตะวันออกยังหุบเขาโจกุลส์เอาร์กยูฟูร์ (Jökulsárgljúfur) ที่นี่หากสภาพถนนเอื้ออำนวย คุณจะได้ไปเที่ยวชมน้ำตกที่มีพลังงานมากที่สุดในยุโรปชื่อว่า น้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) น้ำตกขนาดใหญ่นี้มีความสูงอยู่ที่ 45 เมตรตกลงไปยังหุบเขาที่งดงาม. มองหาประสบการณ์ในการถ่ายภาพที่ยิ่งใหญ่และไม่มีวันลืมเลือนขณะที่คุณจะได้พบกับปริมาตรน้ำที่ทรงพลังและมหาศาลรวมถึงละอองน้ำจำนวนมากที่สามารถมองเห็นได้ไกลเป็นกิโลเมตร. เดินทางต่อไปในเส้นทางภูเขาในฟยอร์ดทางตะวันออกที่สวยงามจนในที่สุดมาถึงยังธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ที่ถือเป็นธารน้ำแข็งและอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยฟยอร์ดภูเขายาวไปตามแนวชายฝั่งตะวันออก. คุณจะได้พักผ่อนในคืนนี้ที่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆที่ชื่อว่า ดยูปิโวกูร์ (Djúpivogur) เพื่อสำรวจท่าเรือที่แปลกตาและอาคารเก่าแก่ที่ยังไม่ถูกทำลายรายล้อมไปด้วยภูเขาที่ยิ่งใหญ่ ที่นี่คุณจะมีโอกาสได้ถ่ายภาพแสงสะท้อนของฟยอร์ดที่งดงามและคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นแสงเหนือ.
อ่านเพิ่ม
วัน 9
ภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนเคลื่อนไหวและละลายตลอดเวลา นั่นหมายถึงความพิเศษในทุกครั้งที่ไปเที่ยวชม.

วัน 9 - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน

จากฟยอร์ดดยูปิโวกูร์ คุณจะได้ตรงไปยังอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลที่โด่งดัง ที่นี่คุณจะได้เห็นทัศนียภาพที่มีความพิเศษที่จะสามารถเห็นได้เฉพาะในประเทศไอซ์แลนด์ นั่นรวมไปถึงทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ที่ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกออกจากธารน้ำแข็งเปรียดาร์แมร์คูร์โจกุล (Breiðamerkerkurjökull) และลอยเอื่อยๆลงไปในทะเล. คุณจะได้ใช้เวลาในอีกสามวันถัดไปในที่พักใกล้กับทะเลสาบ ขณะที่คุณสำรวจบริเวณและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติรอบๆ ไกด์ของคุณจะวางแผนการเดินทางขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของสมาชิกในกลุ่มรวมถึงเงื่อนไขของสภาพอากาศและแสงดังนั้นคุณจะต้องได้ภาพถ่ายของสถานที่ที่น่ามหัศจรรย์แน่นอน. โจกุลซาลอนยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพแสงเหนือดังนั้นหากแสงเหนือปรากฏ คุณดีใจได้เลยเพราะคุณอยู่ไม่ไกลจากที่นั่น.
อ่านเพิ่ม
วัน 10
เข้าไปดื่มด่ำในถ้ำน้ำแข็งและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์และทิวทัศน์ที่งดงามของน้ำแข็งสีฟ้าที่ยากจะจินตนาการ.

วัน 10 - ถ้ำน้ำแข็งสีฟ้า

วันนี้คุณจะได้เพลิดเพลินมากขึ้นไปอีกกับโอกาสที่จะได้ถ่ายภาพความมหัศจรรย์ของน้ำแข็งบนทะเลสาบธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่งดงาม คุณจะได้มีโอกาสมากมายในการถ่ายภาพภูเขาน้ำแข็งระยิบระยับจำนวนมากลอยไปทางมหาสมุทร. ไม่ไกลจากทะเลสาบจะเป็นไดมอนด์บีช ที่ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งและมีภูเขาน้ำแข็งที่ถูกซัดขึ้นมาบนชายฝั่ง ก้อนน้ำแข็งโบราณที่น่าตื่นตาเหล่านี้ตั้งส่องประกายภายใต้แสงของช่วงกลางวัน แสงที่ส่องประกายทั้งหมดตัดกับทรายสีดำที่อยู่ด้านล่าง. ไกด์ของคุณจะนำคุณเดินทางไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งที่มีคนรู้จักน้อยกว่าสถานที่ก่อนเพื่อเตรียมให้คุณได้พบกับประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวันนี้ ด้วยการไปเที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งที่น่าตื่นตา. ขณะที่คุณเดินทางเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งบริเวณใต้ธารน้ำแข็ง คุณจะต้องเตรียมตัวเพื่อพบกับความมหัศจรรย์ไม่เพียงแต่จากรูปร่างและโพรงมากมายแต่ยังเป็นเฉดมากมายของสีที่ได้ถูกซึมซับจากแสงที่มองเห็นได้เกือบทั้งหมดและทำให้ผนังเป็นสีฟ้าสดใส. นี่จะเป็นช่วงเวลาที่ดูเหมือนว่าจะถูกแช่แข็ง และทุกอย่างให้ความรู้สึกเหมือนฝันและเราจะรักษาช่วงเวลานี้โดยใช้กล้องเลนส์มุมกว้างของเราเพื่อภาพถ่ายที่มีเอกลักษณ์และเป็นที่น่าจดจำ. คุณจะได้เดินทางกลับที่พักที่อยู่ใกล้บริเวณโจกุลซาลอนอีกคืน และแน่นอนด้วยความคาดหวังจะมีแสงเหนือเกิดขึ้นคืนนี้.
อ่านเพิ่ม
วัน 11
แสงเหนือเต้นรำอยู่เหนือภูเขาเวสตราฮอร์นที่งดงาม.

วัน 11 - อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล

วันนี้เป็นการเดินทางวันที่สิบเอ็ดของคุณ และวันนี้จุดหมายปลายทางของคุณจะเป็นคาบสมุทรสต๊อคเนส (Stokksnes) เพื่อที่คุณจะได้ถ่ายภาพที่มีคุณภาพสูงของภูเขาที่มีขนาดสูงถึง 454 เมตร ที่อยู่สูงขึ้นไปเหนือชายหาดลาวาสีดำที่อยู่ด้านล่าง. คณะเดินทางของคุณจะมองหาและเดินตามแสงที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับการถ่ายภาพภูเขาแห่งนี้พร้อมกับบริเวณรอบๆ. ภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ประกอบไปด้วยยอดเขามากมายรวมถึงรูปร่างของยอดหนึ่งที่หาดูได้ยากนั่นคือบรุนน์ฮอร์น (Brunnhorn) ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกทอดยาวต่อไปจนถึงทะเล เมื่อส่องสว่างขึ้นมาหรือเมื่อพระอาทิตย์ตกที่ภูเขาแห่งนี้ ทำให้มีออร่าที่น่าประทับใจ ทำให้เกิดฉากหลังที่สมบูรณ์แบบพร้อมด้วยฉากหน้าเป็นเส้นทางน้ำ ในขณะที่คลื่นขนาดใหญ่ซัดลงไปตามโขดหินบางก้อนที่ริมชายหาด. หลังจากวันแห่งการถ่ายภาพยอดเขาที่น่าประทับในของลักษณะทางธรรมชาติที่มีเสน่ห์นี้ คุณจะได้พักผ่อนในที่พักบริเวณโจกุลซาลอน.
อ่านเพิ่ม
วัน 12
สีสันมากมายของฤดูหนาวรวมกับแสงในชั่วโมงสีทองในช่วงฤดูหนาว.

วัน 12 - หมู่บ้านวิกในชายฝั่งทางใต้

ในทัวร์วันที่สิบสองของเรา คุณจะได้เดินทางออกจากโจกุลซาลอน และตรงไปยังเมืองวิก (Vík) ที่มีเสน่ห์ ภูมิภาคนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาลของภูเขาไฟ, ทุ่งลาวา, ทะเลสาบ, หาดทรายดำ, หน้าผาและชั้นหินทะเล แน่นอนว่ารวมทั้งน้ำตกของที่นี่. อย่างไรก็ตาม ในวันนี้คุณจะได้เน้นที่การถ่ายภาพหมู่บ้านวิก และหาดทรายดำที่มีเสน่ห์รวมถึงชั้นหินบะซอลต์ที่ขึ้นมาจากทะเล ชั้นหินเหล่านี้เรียกว่า เรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) และเป็นที่เชื่อกันว่าชั้นหินเหล่านี้คือโทรลที่กลายร่างเป็นก้อนหินเมื่อเจอกับแสงอาทิตย์. ทันทีที่คุณได้ถ่ายภาพทัศนียภาพของทะเลจากหมู่บ้านวิกแล้ว คุณจะได้ตรงไปยังชายหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่ได้รับการโหวตให้เป็นในชายหาดนอกเขตร้อนที่สวยที่สุดในโลก ที่นี่คุณจะได้พบกับชั้นหินทะเลเรนิสแดรงเกอร์จากในอีกมุมหนึ่ง เรย์นิสฟยารามีหน้าผาหินบะซอลต์ที่ชวนให้หลงใหลซึ่งมีขนาดใหญ่พอที่จะยืนด้านบน. ทันทีที่คุณได้ชื่นชมกับสถานที่ที่ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งอย่างจุใจแล้ว คุณจะได้เดินทางกลับไปยังที่พักสำหรับการพักผ่อนในคืนนี้ที่หมู่บ้านวิก.
อ่านเพิ่ม
วัน 13
น้ำของน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ในช่วงฤดูหนาวถูกปกคลุมด้วยหิมะและปกคลุมด้วยน้ำแข็ง.

วัน 13 - มุ่งหน้ากลับ

หลังจากอาหารเช้าแสนอร่อย คุณจะได้ท่องเที่ยวไปตามเส้นทางชายฝั่งทางใต้กลับไปยังเมืองเรคยาวิก และหยุดแวะขณะเดินทางออกจากสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนี้เพื่อที่จะถ่ายภาพที่ยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้น. จุดแวะแรก ได้แก่ ดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) แหลมที่มีทิวทัศน์อันน่าประทับใจของแนวชายฝั่งที่ดูเหมือนว่าจะทอดยาวแบบสุดสายตาไปทางตะวันออกและทิวทัศน์ที่น่าประทับใจของชั้นหินทะเลเรย์นิสฟยารา และซุ้มหินทะเลดิร์โอลาเอย์ขนาดใหญ่ และยังมีประภาคารที่มีเสน่ห์ ที่เหมาะสำหรับภาพถ่ายแบบชนบท. คุณจะได้เดินทางผ่านภูเขาไฟสองแห่งที่ยังมีการปะทุอยู่ ได้แก่ แฮกล่า (Hekla) ที่มีความสูงที่ 1,490 เมตรและมียอดที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ที่มีการปะทุที่รุนแรงและมักเกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์ทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า "ประตูสู่นรก" และอีกแห่งคือ เอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) ซึ่งหยุดการจราจรทางอากาศที่โด่งดังในปี 2010 หลังจากการระเบิด. ถัดจากนั้นเราจะแวะถ่ายภาพกันที่สองน้ำตกที่มีชื่อเสียงสำหรับภูมิภาคนี้ ได้แก่ น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) หนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่มีน้ำตกลงมาที่ความสูง 60 เมตรและมีความกว้าง 25 เมตร เมื่อน้ำตรงชายฝั่งทะเลลดระดับลง หน้าผาแห่งเก่ายังคงอยู่และทำให้พรมแดนที่ชัดเจนระหว่างที่ราบลุ่มชายฝั่งและที่ราบสูงของประเทศไอซ์แลนด์ และอยู่บนพรมแดนที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกสโกการ์ฟอสส์. ในวันที่พระอาทิตย์สดใส ละอองน้ำจากน้ำตกขนาดใหญ่นี้ทำให้เกิดสายรุ้ง หนึ่งหรือสองสาย ทันทีที่คุณได้ถ่ายภาพทิวทัศน์เหล่านี้แล้ว คุณจะได้เดินทางต่อไปยังน้ำตกอีกแห่งที่อยู่ใกล้เคียงที่ชื่อว่า น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งค่อนข้างจะมีรูปร่างที่แตกต่างแต่ก็ไม่ได้งดงามน้อยกว่า. มุ่งหน้ากลับไปยังเมืองเรคยาวิก คุณจะได้เข้าพักยังที่พักในเมือง คุณจะได้พบกับเพื่อนร่วมเดินทางของคุณเพื่อรับประทานอาหารเย็นรวมทั้งการซักถามและพูดคุยเกี่ยวกับการปรับแต่งรูปภาพของคุณ.
อ่านเพิ่ม
วัน 14
โถงคอนเสิรตฮาร์ปามีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมที่งดงามบนท่าเรือเก่าของเมืองเรคยาวิก.

วัน 14 - ออกเดินทางกลับ

หลังจากรับประทานอาหารเช้าและกล่าวอำลาเพื่อนร่วมเดินทางของคุณแล้ว คุณจะได้ขึ้นรถรับ-ส่งสนามบินไปยังสนามบินนานาชาติเคฟราวิก พร้อมกับการ์ดหน่วยความจำที่เต็มเปี่ยมและทักษะใหม่ๆพร้อมประสบการณ์มากมาย.
อ่านเพิ่ม

สิ่งที่ควรรู้

- เราคือผู้น้ำทัวรท้องถิ่น และ ทราเวลเอเย่น ที่ได้รับหน้าที่จาก คณะกรรมการการท่องเที่ยวของประเทศไอซ์แลนด์

- เราบริการทัวร์ที่มีจำนวนสูงสุดที่ 10-12คน. ด้วยเหตุผลที่คุณจะได้ทำความรู้จักกับไกด์ช่างภาพ และ พื่อที่คุณจะได้เข้าไปยังสถานที่ที่เหมาะแค่สำหรับคนกลุ่มเล็ก.

- แขกของเราจะได้คอลเล็กชั่นวิดีโอกระบวนการพัฒนาการถ่ายภาพจากช่างภาพพ่วงรางวัลของเรา ที่มีมูลค่ามากกว่า $1,500.

- เราบริการแค่โรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์เท่านั้น.

- ทัวร์ถ่ายรูป และ เวิร์คช๋อปของเราจะนำโดยช่างภาพพร้อมด้วยรางวัล

- เราบริการที่เการองเท้า และ บูทยาง ให้กับแขกทุกคนตลอดทริป

- ขณะออกทัวร์เราจะให้ข้อมูลที่มีค่ากับคุณ และ การอธิบายการถ่ายภาพ และ กระบวนการพัฒนาการถ่ายภาพ

- ไกด์ถ่ายรูปของเราจะคอยช่วยเหลือคุณ เพื่อที่จะให้คุณนำรูปที่สวยงามของไอซ์แลนด์กลับบ้าน

อ่านเพิ่ม

Disclaimer

We highly recommend that you get a travel and medical insurance. Your own domestic medical insurance and private health scheme will not cover you whilst you are overseas.

The tour is always dependent on weather, as the Icelandic weather can indeed be highly unpredictable. Likewise, visits to ice caves are dependent on favorable conditions, and indeed the ice caves themselves are not permanent. When it comes to the Northern Lights, while they are most likely to be seen between September and April, there is no guarantee that they will appear on a given day.

Departure Schedule

3-16 Feb 2025 - GUIDED BY VINCENZO MAZZA

19 Feb-3 Mar 2025 - will be announced soon

25 Feb-9 Mar 2025 - GUIDED BY VINCENZO MAZZA

3-16 Mar 2025 - will be announced soon

6-19 Mar 2025 - will be announced soon

วิดีโอ

ไกด์นำเที่ยว

Vincenzo is a nature and landscape photographer. He has been doing landscape photography since 2010, mostly between Italy and Iceland. Born in Italy he moved to Iceland in 2015, after spending many months in that country during the years before to practice landscape photography.

He has been teaching photography and running photo tours since 2011, mostly in Iceland and in Italy. In 2015 he was among the winner photographers of the BBC Wildlife Photographer of the Year international nature photography competition. 

In Iceland he become a mountain and a glacier guide, and he is now an official member of the association of the Icelandic mountain guides.

Regarding his approach to photography, he like to consider himself a storyteller. He believes that his pictures are the result of diligence, creativity and technical skills in the field but most of all unconditional love for nature landscapes.

He would define his pictures as “authentic”, they are a faithful representation of the reality at the moment of the photo shooting, prior to all the obvious adjustments which are essential to the optimization of the picture.

Regarding that aspect, he said: “Nature is so impressive, inspiring and magnificent! if I created pictures with Photoshop, mixing up places and different moments I wouldn’t be the storyteller I want to be. Photography is an interpretation of an evanescent moment. Intuition and passion are needed on the playground of nature”.

รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว

ทัวร์ที่คล้ายกัน