กิจกรรม 10 วันถ่ายภาพแสงเหนือ และถ้ำน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์ มีแนวโน้มที่จะขายออกเร็ว ๆ นี้
แผนการเที่ยวรายวัน
วัน 1 - วันเดินทางมาถึงวันแรกในประเทศไอซ์แลนด์ของคุณ เครื่องของคุณจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟราวิก (Keflavík) จากนั้นคุณจะต้องใช้บริการรถรับ-ส่งสนามบินในการเดินทางตรงไปยังที่พักของคุณในใจกลางเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) คุณจะได้พบกับไกด์ของคุณและผู้ร่วมเดินทางที่ล๊อบบี้โรงแรมตอนหนึ่งทุ่ม และเดินทางไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อทำความรู้จักซึ่งกันและกัน ที่นั่นคุณจะได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการผจญภัยที่รอคุณอยู่ และคุณจะได้ใช้เวลาในคืนนี้ในเเมืองเรคยาวิก.
อ่านเพิ่ม
วัน 2 - วันแรกในสไนล์แฟลซเนสวันที่สองของคุณในประเทศไอซ์แลนด์ รถจะไปรับคุณในเมืองเรคยาวิกตอน 9 โมงเช้า ก่อนที่จะได้เดินทางต่อไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ที่เป็นแหล่งสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์.
สิ่งที่กำลังรอคุณอยู่ตรงชายฝั่ง ก็คือแนวหินบะซอลล์และหน้าผาที่น่าตื่นตาที่อาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi), โบสถ์สีดำที่มีเสน่ห์ที่ชื่อว่า ปูดิร์ (Búðir), ทุ่งลาวาบูดาเฮรินและชั้นหินทะเลที่มีรูปร่างที่แปลกตาและน่าประทับใจที่ชื่อว่า โลนตรังการ์ (Lóndrangar).
สไนล์แฟลซเนสยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มองหาความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างแท้จริงและแสงเหนือ ดังนั้นอย่างลืมที่จะมองออกไปด้านนอกและเตรียมกล้องถ่ายรูปของคุณให้พร้อม คุณจะได้ใช้เวลาคืนนี้ในสไนล์แฟลซเนส.
อ่านเพิ่ม
วัน 3 - วันที่สองในสไนล์แฟลซเนสวันที่สามในประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะได้สำรวจและถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่เหลือในสไนล์แฟลซเนส ที่ยังไม่ได้ไปในวันก่อนหน้า คุณจะได้ไปยังชายฝั่งที่คดเคี้ยว เพื่อที่จะชมหมู่บ้านชาวประมงรวมทั้งภูเขาขนาดใหญ่ที่แบ่งเขตแดนของทางเหนือและทางตะวันตกของคาบสมุทรแห่งนี้.
ไฮไลท์ส่วนหนึ่ง คือ ภูเขาภูเขาเคิร์คจูแฟสที่อยู่ใกล้กับกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) ที่มีรูปร่างเหมือนพิรามิดในตอนที่มองจากมุมที่ถูกต้อง ภูเขาแห่งนี้เป็นหนึ่งในภูเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์แต่ที่นี่มักจะมีอะไรใหม่เสมอรวมถึงความน่าตื่นเต้นที่จะได้มองในมุม, แสงและรูปร่างที่แตกต่างกันแต่ละครั้ง.
ใกล้ๆที่นั่นเป็นน้ำตกที่งดงามที่ชื่อว่า เคิร์คจูแฟสฟอสส์ องค์ประกอบของภูเขาและน้ำตกที่ตัดกันกับหมู่บ้าน และฟยอร์ดที่อยู่ห่างออกไปจะทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงาม ในช่วงฤดูหนาว จะชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยการส่องประกายของหิมะและน้ำแข็ง เช่นเดียวกับความคาดหวังที่จะได้เห็นแสงออโรร่าในสถานที่ที่น่าทึ่งแห่งนี้.
คุณจะได้เวลาในคืนนี้ในสไนล์แฟลซเนสอีกคืน.
อ่านเพิ่ม
วัน 4 - ชายฝั่งทางใต้ในวันนี้คุณจะได้ตรงไปยังชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะเริ่มต้นวันของคุณด้วยการไปเที่ยวชมสองน้ำตกที่งดงามและมีเสน่ห์ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss).
น้ำตกแห่งแรกจะเป็นน้ำตกที่แคบและมีน้ำตกลงมาจาความสูง 63 เมตร และมีอีกความแตกต่างที่หายากคือการที่สามารถเดินไปด้านหลังน้ำตก น้ำตกสโกการ์ฟอสส์เป็นน้ำตกที่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และสามารถถ่ายภาพจากด้านบนได้ เพราะมีทางเดินเพื่อที่จะนำคุณไปที่นั่น และยังนำไปสู่น้ำตกที่น่ามหัศจรรย์อีกแห่ง น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ที่เป็นที่รู้กันว่าน้ำตกแห่งนี้สามารถทำให้เกิดสายรุ้งถึงสองสายในตอนที่มีแสงเอื้ออำนวย.
หลังจากนั้นคุณจะได้ท่องเที่ยวต่อไปยังแผ่นดินเป็นหลักฐานได้ว่าอยู่ทางใต้สุด ภาพที่งดงามของหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีชื่อเสียง ชั้นหินทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar), ทรายสีดำตรงชายฝั่ง, คลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ, แนวหินบะซอลล์รูปทรงพิรามิดบนชายฝั่งที่ชื่อว่าการ์ดาร์ (Garðar) และฝูงนกจำนวนมาก ผลลัพธ์ทั้งหมดนี้จะเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพที่คุณจะได้เจอในการเดินทางครั้งนี้.
กรุณาบันทึกไว้ว่าคลื่นของทะเลที่เรย์นิสฟยาราไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณระวังตัวให้มากที่สุดและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด.
ชายฝั่งทางใต้เป็นที่ตั้งของทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด คุณสามารถหวังว่าจะได้ถ่ายภาพแสงเหนือได้หากปรากฏขึ้น คืนนี้คุณจะได้พักที่หมู่บ้านวิก (Vik) ที่มีเสน่ห์ที่อยู่ใกล้เคียง.
อ่านเพิ่ม
วัน 5 - ศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์ในวันนี้คุณจะได้ตรงไปยังอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลที่เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ทั้งอุทยานฯที่นี่และคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสได้แบ่งปันความงามของทุกอย่างที่มีในประเทศไอซ์แลนด์ไปทีละเล็กทีละน้อย.
โดยเน้นไปทางใต้และทางตะวันออกของอุทยานฯ คุณจะได้ชมธารน้ำแข็งขนาดใหญ่และธารน้ำแข็งที่ยื่นออกมา. เพิ่มเติมให้กับภาพถ่ายที่น่ามหัศจรรย์ของคุณด้วยการล่าแสงเหนือ ที่ให้ความรู้สึกถึงทัศนียภาพที่งดงาม และช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีของปีในการถ่ายภาพแสงออโรร่า เนื่องจากแสงจะมีความชัดเจนและนุ่มนวลเป็นพิเศษ.
ที่พักของคุณในคืนนี้จะอยู่ในบริเวณใกล้เคียง.
อ่านเพิ่ม
วัน 6 - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนและถ้ำน้ำแข็งในวันนี้คุณจะมีโอกาสมากมายในการถ่ายภาพที่งดงามของทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ทางตะวันออกของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่จากธารน้ำแข็งเปรียดาร์แมร์คูร์โจกุล (Breiðamerkurjökull) มีรูปทรงและสีสันที่แตกต่างกันออกไปเมื่อลอยออกสู่ทะเล.
ทิวทัศน์ที่มหัศจรรย์ รูปแบบของแสง รวมถึงการสะท้อนและการส่องประกายที่หลากหลายของทั้งหิมะและน้ำแข็ง ซึ่งตัดกับทรายสีดำ ส่วนประกอบทั้งหมดที่ทำให้พื้นที่นี้เป็นความฝันของนักถ่ายภาพ การเดินท่ามกลางก้อนน้ำแข็งโบราณบนไดมอนด์บีชและคว้าโอกาสในการถ่ายภาพให้มากยิ่งขึ้น.
ยังคงมีความมหัศจรรย์มากขึ้นกำลังรอคุณอยู่ เพราะคุณจะได้มีโอกาสพิเศษในการถ่ายภาพภายในถ้ำน้ำแข็งใต้น้ำแข็งลึกลงไปด้านล่างธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลขนาดใหญ่ ที่นี่คุณจะได้พบกับประติมากรรมของปรากฏการณ์ของธรรมชาติและถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าคริสตัลใส ขณะที่เรายืนปะทะอยู่กับธรรมชาติและเหมือนเวลาหยุดเดิน.
แนะนำให้ใช้เลนส์มุมกว้างสำหรับการถ่ายภาพที่นี่เพื่อการถ่ายภาพที่จะไม่มีวันลืมเลือน หลังจากนั้นจะต้องไม่ลืมเฝ้ามองดูแสงเหนือ ซึ่งทำให้พื้นที่นี้มีความสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด ที่พักของคุณในคืนนี้จะอยู่ใกล้กับทะเลสาบ.
อ่านเพิ่ม
วัน 7 - อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลในวันนี้คุณจะได้มีโอกาสเพียงพอที่จะได้ถ่ายภาพภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่ความสูง 454 เมตรเหนือชายหาดลาวาสีดำในคาบสมุทรสโตคค์เนส (Stokksnes) ภูเขาลูกนี้เกิดจากหินพลูโตนิกที่ไม่ได้แปรสภาพ (หินแกบโบร์และหินอัคนี) และเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากที่ได้ถ่ายเพราะหินที่นี่มีรูปร่างที่น่าสนใจ.
ภูเขาเวสตราฮอร์นประกอบด้วยยอดเขาหลายยอด แต่ยอดที่แปลกที่สุด คือ ยอดเขาบรุนน์ฮอร์น (Brunnhorn) ซึ่งทอดยาวออกไปทางตะวันตกจนถึงชายทะเล คลื่นที่ดุร้ายของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือทำให้เกิดภาพที่งดงามมากยิ่งขึ้นและไม่ว่าจะเป็นช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกดินก็จะได้รับการแนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพที่สุดยอด.
แสงออโรร่าอาจเพิ่มความงดงามของท้องฟ้าในยามค่ำคืน มุ่งหน้าสู่เส้นทางข้ามท้องฟ้าอาร์กติก คืนนี้คุณจะได้พักในบริเวณวัทนาโจกุล.
อ่านเพิ่ม
วัน 8 - น้ำตก & หาดทรายดำเรย์นิสฟยาราวันนี้คุณจะได้ถ่ายภาพความงดงามของสกัฟตาเฟลล์ ซึ่งเป็นบ้านของภูเขาไฟคริสตินาร์ทินดูร์ (Kristínartindar), ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่งดงามและธารน้ำแข็งสวีนาเฟลลส์โจกุล (Svínafellsjökull) ที่สง่างาม.
หลังจากการเที่ยวชมในสกัฟตาเฟลล์ คุณจะมีเวลามากขึ้นที่จะได้ถ่ายภาพสถานที่ที่มีเสน่ห์ของเรย์นิสฟยารา ภาพถ่ายในช่วงเย็นของสถานที่แห่งนี้ ประกอบกับแสงของพระอาทิตย์ตก แน่นอนว่าจะต้องได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ คืนนี้คุณจะได้เขาพักในหมู่บ้านวิก.
อ่านเพิ่ม
วัน 9 - วงกลมทองคำและเดินทางกลับเมืองเรคยาวิกวันนี้จะเป็นเต็มวันสุดท้ายในประเทศไอซ์แลนด์ของคุณ คุณจะได้ชม "สามสุดยอด" สถานที่ทางธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไอซ์แลนด์กล่าวถึงว่าเป็น"วงกลมทองคำ" (The Golden Circle) สถานที่ท่องเที่ยวทั้งสามแห่งนี้ คือ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir), ทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์.
มรดกโลกที่ได้รับการยกย่องโดยองค์กรยูเนสโก้ (UNESCO) นั่นคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สำคัญที่สุด ที่นี่เป็นที่ตั้งของสมัชชาแห่งชาติเก่า และเป็นรัฐสภาปัจจุบันในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า อัลธิงกิ (Alþingi) และยังคงเป็นต่อไป.
สถานที่นี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ยกตัวขึ้นและเป็นหลักฐานของการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกหรืออาจจะเห็นได้จากหุบเขาอัลมานายอง จอร์เก (Almannagjá gorge) ที่น่าประทับใจ เป็นน้ำตกที่งดงามที่ชื่อว่าอ๊อกซาร่าฟอสส์ (Öxarárfoss) อุทยานแห่งชาติแห่งนี้แน่นอนว่าจะเป็นภาพที่น่าประทับใจที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เราขอแนะนำให้คุณถ่ายภาพภูเขาที่อยู่รอบๆวงแหวนและทะเลสาบธิงวัลลาวาทน์ที่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์และเกาะเล็กเกาะน้อยของที่นี่.
น้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) ที่มีชื่อเสียงในหุบเขาเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ได้ให้ยืมชื่อไกเซอร์ไปทั่วโลกรวมทั้งทุ่งน้ำพุร้อนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และที่นี่จะเป็นจุดหมายปลายทางต่อไปของพวกเรา ไกเซอร์ไม่เกิดการปะทุแล้ว แต่ไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ที่อยู่ใกล้เคียงเกิดปะทุบ่อยครั้ง ที่เกิดการปะทุที่ความสูง 15 -20 เมตร.
ไกเซอร์สมิดูร์ (Smiður) และลิทลิ สโทรคูร์ (Litli-Strokkur) ก็น่าสนใจเช่นกัน มวลไอน้ำที่มีสีสันของทางเหนือแต่คุณจะได้เห็นบ่อโคลนในทางใต้ บ่อโคลนเหล่านี้อาจจะเกิดการเดือดหรือเกิดไอน้ำขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ มีสระน้ำธรรมชาติเก่าแก่ที่อยู่ใกล้เคียง เราสามารถเข้าไปชมได้แต่ที่นี่ค่อนข้างเปราะบาง นักท่องเที่ยวต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อที่จะไม่ไปทำลาย.
สถานที่สุดท้ายได้แก่ "น้ำตกทองคำ" กุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์และแน่นอนว่าเป็นที่นิยมของช่างถ่ายภาพธรรมชาติมากที่สุดรวมถึงผู้ที่รักธรรมชาติด้วยเช่นกัน กุลล์ฟอสส์อยู่ในเขตพื้นที่ของแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvítá) และมีความสูงถึง 32 เมตร น้ำตกลงไปยังหุบเขาแม่น้ำแคบๆ หิมะและน้ำแข็งมีส่วนในการเพิ่มความงดงามให้กับทิวทัศน์ของที่นี่เป็นพิเศษ พระอาทิตย์อาจจะทำให้เกิดรุ้งกินน้ำ และคุณอาจจะรู้สึกถึงละอองน้ำของน้ำตกบนใบหน้าของคุณได้.
หลังจากการได้เที่ยวชมใน "สามสุดยอด" สถานที่ท่องเที่ยวในวงกลมทองคำและได้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะได้ตรงไปยังเมืองเรคยาวิกเป็นคืนสุดท้ายในประเทศไอซ์แลนด์ วันนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายเช่นกันในการที่จะได้โอกาสในการถ่ายภาพแสงเหนือ ดังนั้นอย่าลืมที่จะเฝ้ามองและเตรียมกล้องถ่ายรูปของคุณให้พร้อม.
อ่านเพิ่ม
วัน 10 - เดินทางไปยังสนามบินเคฟราวิกวันนี้เป็นวันเดินทางกลับ คุณจะได้กลับบ้าน พร้อมนำความทรงจำสำหรับการผจญภัยที่ไม่ธรรมดานี้กลับไปด้วย.
อ่านเพิ่ม
Disclaimer We highly recommend that you get a travel and medical insurance. Your own domestic medical insurance and private health scheme will not cover you whilst you are overseas.
The tour is always dependent on weather, as the Icelandic weather can indeed be highly unpredictable. Likewise, visits to ice caves are dependent on favorable conditions, and indeed the ice caves themselves are not permanent. When it comes to the Northern Lights, while they are most likely to be seen between September and April, there is no guarantee that they will appear on a given day.
Departure Schedule 31 Jan- 9 Feb 2024
10-19 Feb 2024