กิจกรรม 10 วันถ่ายภาพแสงเหนือ และถ้ำน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์

มีแนวโน้มที่จะขายหมดในเร็วๆ นี้
มีแนวโน้มที่จะขายหมดในเร็วๆ นี้
ไม่คิดค่ายกเลิก.
บริการ 24 ชั่วโมง
การันตีราคาที่ดีที่สุด

คำอธิบาย

สรุป

ทัวร์เริ่มจาก
Reykjavík, Iceland
ระยะเวลา:
10 วัน
Ending place
Reykjavík, Iceland
ภาษา:
English
ความยากลำบาก:
ปานกลาง
ที่มีอยู่:
ม.ค. - ก.พ.
อายุต่ำสุด:
อายุ 18

คำอธิบาย

เข้าร่วมไปกับทัวร์ถ่ายภาพสถานที่ช่วงฤดูหนาว 10 วันนี้ รวมถึงการเฝ้ารอคอยแสงของธรรมชาติและสถานที่ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้ถ่ายภาพน้ำแข็งและแสงเหนือ ขณะที่คุณได้เรียนรู้ถึงเทคนิคจากไกด์ถ่ายภาพที่ได้รับรางวัลและช่วยเพิ่มทักษะการถ่ายภาพของคุณให้สูงขึ้น.

คุณจะได้ท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบายในรถบัสพิเศษและรถซุปเปอร์จิ๊ปที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับการเดินทางไปยังพื้นที่น้ำแข็งที่งดงามในคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) และถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) และโบสถ์ปูดิร์ (Búðir) สีดำ เพิ่มเติมด้วยการเดินทางไปเที่ยวชมชายฝั่งทางใต้ที่งดงามเพื่อที่จะได้ชมถ้ำน้ำแข็ง, ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón), ไดมอนด์บีชและน้ำตกอีกหลายแห่ง.

ประเทศไอซ์แลนด์ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพแสงเหนือในรูปแบบของสีที่น่าตื่นตากำลังเต้นรำอยู่เหนือขอบฟ้าอาร์คติกในความมืด ไกด์ของคุณจะเฝ้าดูเงื่อนไขและสภาพอากาศและการทำนายแสงออโรร่าอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะให้แน่ใจว่าคุณจะได้มีโอกาสในการถ่ายภาพแสงออโรร่าในสถานที่ที่งดงามที่สุด.

รวมทั้งในทัวร์นี้คุณจะได้เดินทางไปยังถ้ำน้ำแข็ง คุณจะได้ร่วมเดินทางไปกับไกด์ถ้ำน้ำแข็งมืออาชีพ ที่จะพาคุณไปพบกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หายากนี้ พร้อมทั้งให้คุณยืมอุปกรณ์เพื่อป้องกันความปลอดภัยและนำคุณตรงไปยังถ้ำพร้อมด้วยความระมัดระวังสูงสุด ภายในถ้ำน้ำแข็งของประเทศไอซ์แลนด์จะทำให้คุณได้รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ภายในถ้ำเต็มไปด้วยรูปร่างของน้ำแข็งสีฟ้าที่ส่องประกายหลากหลายรูปร่างและรูปแบบ ที่กำลังรอให้คุณไปถ่ายภาพ.

ที่ทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอนและไดมอนด์บีช คุณจะได้มีโอกาสมากมายที่จะได้ถ่ายภาพภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่และก้อนน้ำแข็งโบราณที่แตกออกจากธารน้ำแข็งเปรียดาร์แมร์คูร์โจกุล  (Breiðmerkurjökull) ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull).

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสเป็นภูมิภาคที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว มีชายหาดที่งดงามมากมาย การก่อตัวที่น่าตื่นตาของก้อนหินและลาวา และไม่ใช่แค่นั้นที่นี่ยังมีภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่าเคิร์คจูแฟส.

ทัวร์ถ่ายภาพนี้อยู่ในระดับความยากที่ง่ายถึงปานกลาง และเปิดโอกาสให้กับทุกระดับทำให้ทัวร์ครั้งนี้เหมาะสำหรับช่างภาพสมัครเล่นและผู้ที่มีประสบการณ์ด้วยเช่นกัน อาจารย์ผู้สอนทุกคนเป็นช่างภาพที่เคยได้รับรางวัล ดังนั้นคุณสามารถคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด.

คว้ากล้องของคุณและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยทั่วประเทศไอซ์แลนด์ พร้อมกับการพัฒนาทักษะการถ่ายภาพของคุณและถ่ายภาพที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ ตรวจสอบโปรแกรมได้ด้วยการเลือกวันเดินทางของคุณ.

อ่านเพิ่ม

รวมในแพ็คเกจ

ไกด์ถ่ายภาพมืออาชีพ
การเดินทางด้วยพาหนะที่สะดวกสบาย
ที่พักในโรงแรมและเกสต์เฮ้าส์ ห้องพร้อมห้องน้ำส่วนตัว
อาหารเช้าทุกมื้อและ อาหารเย็นเป็นกลุ่มในวันที่ 1 และ 9

กิจกรรม

ถ้ำ
แสงเหนือ
ทัวร์ถ่ายรูป
เวิร์คช็อปถ่ายรูป

แผนการเดินทางรายวัน

วัน 1
ใจกลางเมืองเรคยาวิกที่มีหิมะฟุ้งกระจาย.

วัน 1 - วันเดินทางมาถึง

วันแรกในประเทศไอซ์แลนด์ของคุณ เครื่องของคุณจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟราวิก (Keflavík) จากนั้นคุณจะต้องใช้บริการรถรับ-ส่งสนามบินในการเดินทางตรงไปยังที่พักของคุณในใจกลางเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) คุณจะได้พบกับไกด์ของคุณและผู้ร่วมเดินทางที่ล๊อบบี้โรงแรมตอนหนึ่งทุ่ม และเดินทางไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อทำความรู้จักซึ่งกันและกัน ที่นั่นคุณจะได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการผจญภัยที่รอคุณอยู่ และคุณจะได้ใช้เวลาในคืนนี้ในเเมืองเรคยาวิก.
อ่านเพิ่ม
วัน 2
ภูเขาเคิร์คจูแฟสมีความเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับคุณมองจากมุมไหน.

วัน 2 - วันแรกในสไนล์แฟลซเนส

วันที่สองของคุณในประเทศไอซ์แลนด์ รถจะไปรับคุณในเมืองเรคยาวิกตอน 9 โมงเช้า ก่อนที่จะได้เดินทางต่อไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ที่เป็นแหล่งสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์. สิ่งที่กำลังรอคุณอยู่ตรงชายฝั่ง ก็คือแนวหินบะซอลล์และหน้าผาที่น่าตื่นตาที่อาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi), โบสถ์สีดำที่มีเสน่ห์ที่ชื่อว่า ปูดิร์ (Búðir), ทุ่งลาวาบูดาเฮรินและชั้นหินทะเลที่มีรูปร่างที่แปลกตาและน่าประทับใจที่ชื่อว่า โลนตรังการ์ (Lóndrangar). สไนล์แฟลซเนสยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มองหาความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างแท้จริงและแสงเหนือ ดังนั้นอย่างลืมที่จะมองออกไปด้านนอกและเตรียมกล้องถ่ายรูปของคุณให้พร้อม คุณจะได้ใช้เวลาคืนนี้ในสไนล์แฟลซเนส.
อ่านเพิ่ม
วัน 3
ช่วงกลางวันอาจจะสั้นในช่วงฤดูหนาวแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกดินสวยราวกับสวรรค์.

วัน 3 - วันที่สองในสไนล์แฟลซเนส

วันที่สามในประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะได้สำรวจและถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่เหลือในสไนล์แฟลซเนส ที่ยังไม่ได้ไปในวันก่อนหน้า คุณจะได้ไปยังชายฝั่งที่คดเคี้ยว เพื่อที่จะชมหมู่บ้านชาวประมงรวมทั้งภูเขาขนาดใหญ่ที่แบ่งเขตแดนของทางเหนือและทางตะวันตกของคาบสมุทรแห่งนี้. ไฮไลท์ส่วนหนึ่ง คือ ภูเขาภูเขาเคิร์คจูแฟสที่อยู่ใกล้กับกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) ที่มีรูปร่างเหมือนพิรามิดในตอนที่มองจากมุมที่ถูกต้อง ภูเขาแห่งนี้เป็นหนึ่งในภูเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์แต่ที่นี่มักจะมีอะไรใหม่เสมอรวมถึงความน่าตื่นเต้นที่จะได้มองในมุม, แสงและรูปร่างที่แตกต่างกันแต่ละครั้ง. ใกล้ๆที่นั่นเป็นน้ำตกที่งดงามที่ชื่อว่า เคิร์คจูแฟสฟอสส์ องค์ประกอบของภูเขาและน้ำตกที่ตัดกันกับหมู่บ้าน และฟยอร์ดที่อยู่ห่างออกไปจะทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงาม ในช่วงฤดูหนาว จะชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยการส่องประกายของหิมะและน้ำแข็ง เช่นเดียวกับความคาดหวังที่จะได้เห็นแสงออโรร่าในสถานที่ที่น่าทึ่งแห่งนี้. คุณจะได้เวลาในคืนนี้ในสไนล์แฟลซเนสอีกคืน.
อ่านเพิ่ม
วัน 4
ชั้นหินเรนิสแดรงเกอร์ขึ้นสลับกันในชายฝั่งทางใต้ที่งดงามของประเทศไอซ์แลนด์.

วัน 4 - ชายฝั่งทางใต้

ในวันนี้คุณจะได้ตรงไปยังชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะเริ่มต้นวันของคุณด้วยการไปเที่ยวชมสองน้ำตกที่งดงามและมีเสน่ห์ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss). น้ำตกแห่งแรกจะเป็นน้ำตกที่แคบและมีน้ำตกลงมาจาความสูง 63 เมตร และมีอีกความแตกต่างที่หายากคือการที่สามารถเดินไปด้านหลังน้ำตก น้ำตกสโกการ์ฟอสส์เป็นน้ำตกที่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และสามารถถ่ายภาพจากด้านบนได้ เพราะมีทางเดินเพื่อที่จะนำคุณไปที่นั่น และยังนำไปสู่น้ำตกที่น่ามหัศจรรย์อีกแห่ง น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ที่เป็นที่รู้กันว่าน้ำตกแห่งนี้สามารถทำให้เกิดสายรุ้งถึงสองสายในตอนที่มีแสงเอื้ออำนวย. หลังจากนั้นคุณจะได้ท่องเที่ยวต่อไปยังแผ่นดินเป็นหลักฐานได้ว่าอยู่ทางใต้สุด ภาพที่งดงามของหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีชื่อเสียง ชั้นหินทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar), ทรายสีดำตรงชายฝั่ง, คลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ, แนวหินบะซอลล์รูปทรงพิรามิดบนชายฝั่งที่ชื่อว่าการ์ดาร์ (Garðar) และฝูงนกจำนวนมาก ผลลัพธ์ทั้งหมดนี้จะเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพที่คุณจะได้เจอในการเดินทางครั้งนี้. กรุณาบันทึกไว้ว่าคลื่นของทะเลที่เรย์นิสฟยาราไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณระวังตัวให้มากที่สุดและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด. ชายฝั่งทางใต้เป็นที่ตั้งของทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด คุณสามารถหวังว่าจะได้ถ่ายภาพแสงเหนือได้หากปรากฏขึ้น คืนนี้คุณจะได้พักที่หมู่บ้านวิก (Vik) ที่มีเสน่ห์ที่อยู่ใกล้เคียง.
อ่านเพิ่ม
วัน 5
ชื่นชมก้อนน้ำแข็งที่งดงามอย่างสมบูรณ์แบบของธารน้ำแข็งบนไดมอนด์บีช.

วัน 5 - ศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์

ในวันนี้คุณจะได้ตรงไปยังอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลที่เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ทั้งอุทยานฯที่นี่และคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสได้แบ่งปันความงามของทุกอย่างที่มีในประเทศไอซ์แลนด์ไปทีละเล็กทีละน้อย. โดยเน้นไปทางใต้และทางตะวันออกของอุทยานฯ คุณจะได้ชมธารน้ำแข็งขนาดใหญ่และธารน้ำแข็งที่ยื่นออกมา. เพิ่มเติมให้กับภาพถ่ายที่น่ามหัศจรรย์ของคุณด้วยการล่าแสงเหนือ ที่ให้ความรู้สึกถึงทัศนียภาพที่งดงาม และช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีของปีในการถ่ายภาพแสงออโรร่า เนื่องจากแสงจะมีความชัดเจนและนุ่มนวลเป็นพิเศษ. ที่พักของคุณในคืนนี้จะอยู่ในบริเวณใกล้เคียง.
อ่านเพิ่ม
วัน 6
โลกที่ถูกซ่อนไว้ภายในธารน้ำแข็งของประเทศไอซ์แลนด์.

วัน 6 - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนและถ้ำน้ำแข็ง

ในวันนี้คุณจะมีโอกาสมากมายในการถ่ายภาพที่งดงามของทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ทางตะวันออกของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่จากธารน้ำแข็งเปรียดาร์แมร์คูร์โจกุล (Breiðamerkurjökull) มีรูปทรงและสีสันที่แตกต่างกันออกไปเมื่อลอยออกสู่ทะเล. ทิวทัศน์ที่มหัศจรรย์ รูปแบบของแสง รวมถึงการสะท้อนและการส่องประกายที่หลากหลายของทั้งหิมะและน้ำแข็ง ซึ่งตัดกับทรายสีดำ ส่วนประกอบทั้งหมดที่ทำให้พื้นที่นี้เป็นความฝันของนักถ่ายภาพ การเดินท่ามกลางก้อนน้ำแข็งโบราณบนไดมอนด์บีชและคว้าโอกาสในการถ่ายภาพให้มากยิ่งขึ้น. ยังคงมีความมหัศจรรย์มากขึ้นกำลังรอคุณอยู่ เพราะคุณจะได้มีโอกาสพิเศษในการถ่ายภาพภายในถ้ำน้ำแข็งใต้น้ำแข็งลึกลงไปด้านล่างธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลขนาดใหญ่ ที่นี่คุณจะได้พบกับประติมากรรมของปรากฏการณ์ของธรรมชาติและถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าคริสตัลใส ขณะที่เรายืนปะทะอยู่กับธรรมชาติและเหมือนเวลาหยุดเดิน. แนะนำให้ใช้เลนส์มุมกว้างสำหรับการถ่ายภาพที่นี่เพื่อการถ่ายภาพที่จะไม่มีวันลืมเลือน หลังจากนั้นจะต้องไม่ลืมเฝ้ามองดูแสงเหนือ ซึ่งทำให้พื้นที่นี้มีความสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด ที่พักของคุณในคืนนี้จะอยู่ใกล้กับทะเลสาบ.
อ่านเพิ่ม
วัน 7
ภูเขาเวสตราฮอร์นเป็นที่ชื่นชอบโดยเฉพาะในหมู่ช่างภาพ.

วัน 7 - อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล

ในวันนี้คุณจะได้มีโอกาสเพียงพอที่จะได้ถ่ายภาพภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) ขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่ความสูง 454 เมตรเหนือชายหาดลาวาสีดำในคาบสมุทรสโตคค์เนส (Stokksnes) ภูเขาลูกนี้เกิดจากหินพลูโตนิกที่ไม่ได้แปรสภาพ (หินแกบโบร์และหินอัคนี) และเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากที่ได้ถ่ายเพราะหินที่นี่มีรูปร่างที่น่าสนใจ. ภูเขาเวสตราฮอร์นประกอบด้วยยอดเขาหลายยอด แต่ยอดที่แปลกที่สุด คือ ยอดเขาบรุนน์ฮอร์น (Brunnhorn) ซึ่งทอดยาวออกไปทางตะวันตกจนถึงชายทะเล คลื่นที่ดุร้ายของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือทำให้เกิดภาพที่งดงามมากยิ่งขึ้นและไม่ว่าจะเป็นช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกดินก็จะได้รับการแนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพที่สุดยอด. แสงออโรร่าอาจเพิ่มความงดงามของท้องฟ้าในยามค่ำคืน มุ่งหน้าสู่เส้นทางข้ามท้องฟ้าอาร์กติก คืนนี้คุณจะได้พักในบริเวณวัทนาโจกุล.
อ่านเพิ่ม
วัน 8
พระอาทิตย์ตกเหนือชายฝั่งทางใต้ที่สวยงามของไอซ์แลนด์.

วัน 8 - น้ำตก & หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา

วันนี้คุณจะได้ถ่ายภาพความงดงามของสกัฟตาเฟลล์ ซึ่งเป็นบ้านของภูเขาไฟคริสตินาร์ทินดูร์ (Kristínartindar), ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่งดงามและธารน้ำแข็งสวีนาเฟลลส์โจกุล (Svínafellsjökull) ที่สง่างาม. หลังจากการเที่ยวชมในสกัฟตาเฟลล์ คุณจะมีเวลามากขึ้นที่จะได้ถ่ายภาพสถานที่ที่มีเสน่ห์ของเรย์นิสฟยารา ภาพถ่ายในช่วงเย็นของสถานที่แห่งนี้ ประกอบกับแสงของพระอาทิตย์ตก แน่นอนว่าจะต้องได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ คืนนี้คุณจะได้เขาพักในหมู่บ้านวิก.
อ่านเพิ่ม
วัน 9
กุลล์ฟอสส์ในช่วงฤดูหนาวตกแต่งอย่างสวยงามด้วยน้ำแข็งและหิมะ.

วัน 9 - วงกลมทองคำและเดินทางกลับเมืองเรคยาวิก

วันนี้จะเป็นเต็มวันสุดท้ายในประเทศไอซ์แลนด์ของคุณ คุณจะได้ชม "สามสุดยอด" สถานที่ทางธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไอซ์แลนด์กล่าวถึงว่าเป็น"วงกลมทองคำ" (The Golden Circle) สถานที่ท่องเที่ยวทั้งสามแห่งนี้ คือ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir), ทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์. มรดกโลกที่ได้รับการยกย่องโดยองค์กรยูเนสโก้ (UNESCO) นั่นคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สำคัญที่สุด ที่นี่เป็นที่ตั้งของสมัชชาแห่งชาติเก่า และเป็นรัฐสภาปัจจุบันในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า อัลธิงกิ (Alþingi) และยังคงเป็นต่อไป. สถานที่นี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ยกตัวขึ้นและเป็นหลักฐานของการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกหรืออาจจะเห็นได้จากหุบเขาอัลมานายอง จอร์เก (Almannagjá gorge) ที่น่าประทับใจ เป็นน้ำตกที่งดงามที่ชื่อว่าอ๊อกซาร่าฟอสส์ (Öxarárfoss) อุทยานแห่งชาติแห่งนี้แน่นอนว่าจะเป็นภาพที่น่าประทับใจที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เราขอแนะนำให้คุณถ่ายภาพภูเขาที่อยู่รอบๆวงแหวนและทะเลสาบธิงวัลลาวาทน์ที่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์และเกาะเล็กเกาะน้อยของที่นี่. น้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir) ที่มีชื่อเสียงในหุบเขาเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ได้ให้ยืมชื่อไกเซอร์ไปทั่วโลกรวมทั้งทุ่งน้ำพุร้อนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และที่นี่จะเป็นจุดหมายปลายทางต่อไปของพวกเรา ไกเซอร์ไม่เกิดการปะทุแล้ว แต่ไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ที่อยู่ใกล้เคียงเกิดปะทุบ่อยครั้ง ที่เกิดการปะทุที่ความสูง 15 -20 เมตร. ไกเซอร์สมิดูร์ (Smiður) และลิทลิ สโทรคูร์ (Litli-Strokkur) ก็น่าสนใจเช่นกัน มวลไอน้ำที่มีสีสันของทางเหนือแต่คุณจะได้เห็นบ่อโคลนในทางใต้ บ่อโคลนเหล่านี้อาจจะเกิดการเดือดหรือเกิดไอน้ำขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ มีสระน้ำธรรมชาติเก่าแก่ที่อยู่ใกล้เคียง เราสามารถเข้าไปชมได้แต่ที่นี่ค่อนข้างเปราะบาง นักท่องเที่ยวต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อที่จะไม่ไปทำลาย. สถานที่สุดท้ายได้แก่ "น้ำตกทองคำ" กุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์และแน่นอนว่าเป็นที่นิยมของช่างถ่ายภาพธรรมชาติมากที่สุดรวมถึงผู้ที่รักธรรมชาติด้วยเช่นกัน กุลล์ฟอสส์อยู่ในเขตพื้นที่ของแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvítá) และมีความสูงถึง 32 เมตร น้ำตกลงไปยังหุบเขาแม่น้ำแคบๆ หิมะและน้ำแข็งมีส่วนในการเพิ่มความงดงามให้กับทิวทัศน์ของที่นี่เป็นพิเศษ พระอาทิตย์อาจจะทำให้เกิดรุ้งกินน้ำ และคุณอาจจะรู้สึกถึงละอองน้ำของน้ำตกบนใบหน้าของคุณได้. หลังจากการได้เที่ยวชมใน "สามสุดยอด" สถานที่ท่องเที่ยวในวงกลมทองคำและได้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไอซ์แลนด์ คุณจะได้ตรงไปยังเมืองเรคยาวิกเป็นคืนสุดท้ายในประเทศไอซ์แลนด์ วันนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายเช่นกันในการที่จะได้โอกาสในการถ่ายภาพแสงเหนือ ดังนั้นอย่าลืมที่จะเฝ้ามองและเตรียมกล้องถ่ายรูปของคุณให้พร้อม.
อ่านเพิ่ม
วัน 10
แสงเหนือที่แพรวพราวได้แต่งแต้มท้องฟ้าเหนืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์.

วัน 10 - เดินทางไปยังสนามบินเคฟราวิก

วันนี้เป็นวันเดินทางกลับ คุณจะได้กลับบ้าน พร้อมนำความทรงจำสำหรับการผจญภัยที่ไม่ธรรมดานี้กลับไปด้วย.
อ่านเพิ่ม

สิ่งที่ควรรู้

- เราคือผู้น้ำทัวรท้องถิ่น และ ทราเวลเอเย่น ที่ได้รับหน้าที่จาก คณะกรรมการการท่องเที่ยวของประเทศไอซ์แลนด์

- เราบริการทัวร์ที่มีจำนวนสูงสุดที่ 10-12คน. ด้วยเหตุผลที่คุณจะได้ทำความรู้จักกับไกด์ช่างภาพ และ พื่อที่คุณจะได้เข้าไปยังสถานที่ที่เหมาะแค่สำหรับคนกลุ่มเล็ก.

- แขกของเราจะได้คอลเล็กชั่นวิดีโอกระบวนการพัฒนาการถ่ายภาพจากช่างภาพพ่วงรางวัลของเรา ที่มีมูลค่ามากกว่า $1,500.

- เราบริการแค่โรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์เท่านั้น.

- ทัวร์ถ่ายรูป และ เวิร์คช๋อปของเราจะนำโดยช่างภาพพร้อมด้วยรางวัล

- เราบริการที่เการองเท้า และ บูทยาง ให้กับแขกทุกคนตลอดทริป

- ขณะออกทัวร์เราจะให้ข้อมูลที่มีค่ากับคุณ และ การอธิบายการถ่ายภาพ และ กระบวนการพัฒนาการถ่ายภาพ

- ไกด์ถ่ายรูปของเราจะคอยช่วยเหลือคุณ เพื่อที่จะให้คุณนำรูปที่สวยงามของไอซ์แลนด์กลับบ้าน

อ่านเพิ่ม

Disclaimer

We highly recommend that you get a travel and medical insurance. Your own domestic medical insurance and private health scheme will not cover you whilst you are overseas.

The tour is always dependent on weather, as the Icelandic weather can indeed be highly unpredictable. Likewise, visits to ice caves are dependent on favorable conditions, and indeed the ice caves themselves are not permanent. When it comes to the Northern Lights, while they are most likely to be seen between September and April, there is no guarantee that they will appear on a given day.

Departure Schedule

31 Jan- 9 Feb 2025 - Guided by Kevin Pagés

10-19 Feb 2025 - Guided by Vincenzo Mazza

31 Jan- 9 Feb 2026

10-19 Feb 2026

วิดีโอ

ไกด์นำเที่ยว

Vincenzo is a nature and landscape photographer. He has been doing landscape photography since 2010, mostly between Italy and Iceland. Born in Italy he moved to Iceland in 2015, after spending many months in that country during the years before to practice landscape photography.

He has been teaching photography and running photo tours since 2011, mostly in Iceland and in Italy. In 2015 he was among the winner photographers of the BBC Wildlife Photographer of the Year international nature photography competition. 

In Iceland he become a mountain and a glacier guide, and he is now an official member of the association of the Icelandic mountain guides.

Regarding his approach to photography, he like to consider himself a storyteller. He believes that his pictures are the result of diligence, creativity and technical skills in the field but most of all unconditional love for nature landscapes.

He would define his pictures as “authentic”, they are a faithful representation of the reality at the moment of the photo shooting, prior to all the obvious adjustments which are essential to the optimization of the picture.

Regarding that aspect, he said: “Nature is so impressive, inspiring and magnificent! if I created pictures with Photoshop, mixing up places and different moments I wouldn’t be the storyteller I want to be. Photography is an interpretation of an evanescent moment. Intuition and passion are needed on the playground of nature”.

Siggi the Viking

Siggi the Viking

English, Icelandic
ดูหน้าโปรไฟล์

Siggi was born in Iceland and has spent most of his photography career in this paradise.During his time as a photographer, he early on found that his passion lies with photographing the beautiful landscapes and nightscapes of Iceland. One of his favorite activities is being out, chasing the northern lights and thinking of new ways to top his shots.

He has won multiple awards for his work, both locally and internationally, especially for his photos of the Aurora Borealis. Sigurdur has also written a book on the subject to aid everyone in getting the perfect shots of Lady Aurora and held nightscape photography workshops in Iceland since the beginning of 2012 with great success.

When the days get longer and the northern lights fade into the daylight, he turns his eyes towards the sun and the amazing midnight sun that Iceland has to offer with the golden hours that seem to stretch on forever.

รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว

ทัวร์ที่คล้ายกัน