ทัวร์ถ่ายภาพยอดนิยมและเวิร์คช็อป
เดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุด
เรียนรู้เพิ่มเติมทักษะในทัวร์นี้ ที่นำโดยไกด์ถ่ายภาพท้องถิ่นที่ได้รับรางวัล และเป็นโอกาสที่ดีเหมาะทั้งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและช่างภาพมืออาชีพ.
กำหนดการเดินทางที่รวมไปถึงสถานที่ที่โปรดปรานสำหรับช่างภาพในประเทศไอซ์แลนด์ รวมถึงไดมอนด์บีช, ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) และน้ำตกที่สวยงาม เช่น โกดาฟอสส์ (Goðafoss) พร้อมด้วยทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาของที่ราบสูง, ภูมิภาคที่เต็มไปด้วยผืนป่าที่มีขนาดใหญ่และสามารถเข้าไปถึงได้เฉพาะช่วงฤดูร้อน.
คุณจะได้เดินทางโดยยานพาหนะขับเคลื่อน 4 ล้อที่ตกแต่งให้เหมาะสำหรับการเดินทางไปถึงพื้นที่ราบสูงอย่างปลอดภัย รถคันนี้ยังมีความสามารถในการเดินทางข้ามถนนบนภูเขาที่ขรุขระ นั่นหมายถึงว่าในทัวร์ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมทั้งการถ่ายภาพแลนด์มาร์คที่โดดเด่น และสำรวจสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครเดินทางไปถึง.
ตลอดช่วงเวลาการเดินทางนี้ คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ หรือแม้แต่เพิ่มระดับทักษะในการถ่ายภาพของคุณ.
อย่ารอช้า และคุณสามารถจองที่นั่งของคุณในทัวร์กิจกรรมถ่ายภาพหลายวันที่น่ามหัศจรรย์นี้ เพื่อที่จะค้นพบภูมิภาคที่สวยที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ ตรวจสอบโปรแกรมด้วยการเลือกวันเดินทางของคุณ.
เราจะพบกันที่ล็อบบี้โรงแรมของคุณเวลาหนึ่งทุ่ม และออกไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ ที่นี่คุณจะได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งพูดคุยเกี่ยวกับการผจญภัยถ่ายภาพที่รอคอยคุณอยู่.
คุณจะได้ใช้เวลาในคืนนี้ที่โรงแรมในเมืองเรคยาวิก คุณควรจะนอนหลับพักผ่อนสำหรับการเดินทางที่คุณจะไม่มีวันลืม.
สถานที่แห่งแรกในวันนี้ คือ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่แคบและมีน้ำที่ตกลงมาที่ความสูงถึง 63 เมตรในสระน้ำที่ส่องประกาย น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของประเทศไอซ์แลนด์ และผู้ที่มาเที่ยวชมสามารถเดินไปทางด้านหลังได้ ทำให้เป็นภาพมุมมองใหม่ๆของน้ำตกที่น่าอัศจรรย์สำหรับบรรดาช่างภาพ.
และที่ใกล้เคียงเป็น "น้ำตกที่ถูกซ่อนไว้" มีความสูงถึง 40 เมตรที่ชื่อว่า กลูยฟราฟอสส์ (Gljúfrafoss) หรือ จอร์จ ดเวลเลอร์ (Gorge dweller) สถานที่ถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมอีกแห่ง น้ำตกแห่งนี้ถูกซ่อนไว้ภายในหน้าผาทะเลโบราณ นั่นหมายถึงว่านักท่องเที่ยวมักจะมองข้ามน้ำตกกลูยฟราฟอสส์นี้ แต่ไม่ต้องสงสัยว่าที่นี่ต้องมีสิ่งที่น่าประทับใจแน่นอน และคุณจะได้ไปถ่ายภาพเพื่อพิสูจน์.
เราจะได้ตรงไปยังน้ำตกที่งดงามที่ชื่อว่า น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) น้ำตกแห่งนี้สามารถถ่ายภาพได้จากทางด้านบน เพราะ มีทางเดินนำขึ้นไปด้านบนจนถึงยอด น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ยังเป็นที่รู้กันว่าสามารถทำให้เกิดสายรุ้งสองสายและให้โอกาสคุณในฐานะช่างภาพมากขึ้น.
ถัดจากนั้น เราจะตรงไปยังส่วนที่ใต้ที่สุดของแผ่นดินประเทศไอซ์แลนด์ หมู่บ้านวิก อี มิร์ดาล์ (Vík í Mýrdal) และชายหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่โด่งดัง.
ด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม ชายหาดแห่งนี้เป็นเหมือนสวรรค์ของช่างภาพ คุณจะได้ถ่ายภาพทรายและก้อนกรวดสีดำบนชายหาด, แนวหินบะซอลต์ทรงพิระมิดที่ชื่อ การ์ดาร์ (Gardar) และชั้นหินทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่น่าประทับใจที่ยื่นขึ้นไปบนท้องฟ้าจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ.
ที่นี่ยังมีประภาคารที่มีสเน่ห์ที่อยู่ใกล้กับแหลมดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey).
การถ่ายภาพชายหาดขณะที่ส่องสว่างโดยดวงอาทิตย์เที่ยงคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพลบค่ำทำให้มีสีที่หลากหลายเกิดขึ้นในภูมิประเทศ ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง.
คุณจะได้ใช้เวลาในคืนนี้ที่หมู่บ้านวิก อี มิร์ดาล์.
ที่นี่มีทัศนียภาพที่งดงาม พร้อมพืชพรรณที่เขียวชอุ่ม, น้ำตกที่สวยงามและภาพพาโนรามาที่มีชีวิตชีวา. ไกลออกไปอีกหน่อยทางตะวันออก คุณจะได้ถ่ายภาพความงดงามที่น่ามหัศจรรย์ของทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนที่เป็นที่รู้จักในอีกชื่อว่า "มงกุฏของประเทศไอซ์แลนด์" สระน้ำที่มีชื่อเดียวกันนี้ ต้องขอบคุณความงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ.
ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกออกจากธารน้ำแข็งเปรียดาร์แมร์คูร์โจกุล (Breiðamerkurjökull) ตกลงไปบนผิวเรียบของน้ำในทะเลสาบตรงขอบของก้อนน้ำแข็งจะถูกปกคลุ่มด้วยประชากรของฝูงแมวน้ำ ก้อนน้ำแข็งเดินทางจากทะเลสาบไปยังไดมอนด์บีชที่อยู่ใกล้เคียง ที่ได้พัดก้อนน้ำแข็งขึ้นไปยังหาดทรายดำ ทำให้เกิดภาพที่น่าประทับใจ.
หลังจากเวลาที่โจกุลซาลอนของคุณได้หมดลงแล้ว คุณจะได้พักผ่อนในที่พักในบริเวณสกัฟตาเฟลล์.
วันนี้เราจะเน้นที่การถ่ายภาพภูเขาสองแห่ง แห่งแรก ได้แก่ เอิลดูร์แฟลล์ (Öldufell) ที่ตั้งอยู่เหนือหุบเขาสีเขียวพร้อมด้วยน้ำตกที่สวยงาม ภูเขาแห่งที่สองชื่อว่า ไมลิแฟลล์ (Maelifell) อธิบายได้ดีที่สุดโดยที่นี่เป็นภูเขาไฟที่มีความสูง 800 เมตรรูปกรวย สูงขึ้นไปเหมือนพิรามิดสีเขียวเหนือทะเลทรายสีดำที่อยู่ล้อมรอบ.
น้ำตกอีกแห่งที่รอบคุณอยู่คือความงดงามของน้ำตกอัซราฟอสส์ (Axlarfoss) ในแม่น้ำฮอล์มซา (Hólmsá) ที่ล้อมรอบด้วยแนวหินบะซอลต์ น้ำตกแห่งนี้มีความงดงามมาก ให้ความแตกต่างของแสงที่น่าพอใจระหว่างน้ำที่เปล่งประกายและหินบะซอลต์สีดำ.
เราจะได้จบการเดินทางในวันนี้ โดยการไปชมหุบเขาภูเขาไฟอันยิ่งใหญ่ที่ชื่อว่า แอลด์เกาย์ (Eldgjá) ที่ทอดยาวจากธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ไปจนถึงยอดเขาเกาย์ทินตูร์ (Gjátindur) เอลด์กเจามีความยาวกว่า 40 กิโลเมตร กว้าง 600 เมตรและลึก 270 เมตร หุบเขาแห่งนี้เกิดจากการปะทุหลายครั้งเมื่อประมาณปี 900 และทุ่งลาวาปกคลุมพื้นที่ประมาณ 700 ตารางกิโลเมตร.
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นี่จะทำให้การถ่ายภาพเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม.
หลังจากนั้น เราจะตรงไปพักยังเกสท์เฮ้าส์ฮริฟูเนส (Hrifunes) ที่อยู่ใกล้เคียง ที่นี่จะเป็นที่พักในคืนนี้ของเรา.
หลังจากนั้นคุณจะได้ถ่ายภาพต่อยังทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเบลาอิลูร์ (Bláhylur) หรือ "สระน้ำสีฟ้า", หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อเฮนยซาพอลลลู (Hnausapollur) และเลียวทิพอลลูร์ (Ljótipollur) ทั้งสองแห่งตั้งอยู่ในทะเลสาบที่ราบสูงในบริเวณเวดิวาท์น (Veiðivötn).
เลียวทิพอลลูร์ เป็นชื่อแปลกๆที่ถูกตั้งให้กับทะเลสาบแห่งที่สอง เพราะชื่อนี้หมายความว่า "สระน้ำน่าเกลียด" อย่างไรก็ตามความสวยงามของสถานที่นี้ตรงกันข้ามกับชื่อโดยสิ้นเชิง ด้วยปากปล่องภูเขาไฟที่ระเบิดเป็นสีแดงสดใสจึงทำให้ที่นี่ตัดกันกับทะเลสาบ.
คุณจะได้ใช้เวลาในคืนนี้ในโรงแรมไฮแลนด์.
ด้วยน้ำพุร้อนและอ่างน้ำธรรมชาติของที่นี่, ภูเขาหินไรโอไลต์สีสันสดใส, การก่อตัวของหินที่สวยงาม, ทุ่งลาวาขนาดใหญ่และพืชพันธุ์ที่เขียวชอุ่ม ทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมและเป็นโอเอซิสที่เหมาะกับการถ่ายภาพมากที่สุดในประเทศ.
เราจะได้ถ่ายภาพที่น่ามหัศจรรย์ในวันนี้ และท่องเที่ยวไปตามสันเขาของฟอสส์ตาสตาดาฮาลส์ (Frostastaðaháls) เพื่อชมบริเวณที่งดงาม รวมถึงทะเลสาบฟอสส์ตาสตาดาวาท์น ที่นั่นเราจะได้ถ่ายภาพน้ำตกสวยงามหลายแห่งที่หุบเขาสิกลูฟยอร์ดูร์ (Sigöldugljúfur).
หุบเขาสิกลูฟยอร์ดูร์ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แต่หุบเขาแห่งนี้ก็มีความมหัศจรรย์ในตัวเอง แน่นอนว่าคุณจะต้องได้ภาพถ่ายที่งดงาม ด้วยสีสันที่ตัดกันของหญ้ามอสสีเขียว, สีของน้ำและหินสีดำจะทำให้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่โปรดปรานอีกแห่ง.
ในวันนี้คุณจะสามารถเลือกแช่น้ำในบ่อน้ำธรรมชาติลานมันนาเลยการ์ สระน้ำร้อนที่ผ่อนคลายเหล่านี้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการผ่อนคลายในตอนท้ายของวันที่วุ่นวายวันนี้.
คืนนี้คุณจะได้เข้าพักในโรงแรมไฮแลนด์อีกคืนหนึ่ง.
ตามเวลาในการเดินทางในวีดิโวท์น เราจะท่องเที่ยวต่อไปทางตะวันตกยังศูนย์อนุรักษ์ฟยาลลาปาก (Fjallabak) เพื่อที่จะถ่ายภาพน้ำตกที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า ฮาอิฟอสส์ (Háifoss) น้ำตกที่งดงามนี้ตกลงมาจากความสูงที่ 122 เมตรลงไปในหุบเขาแม่น้ำลึก เราจะยังได้ถ่ายภาพน้ำตกอีกแห่งที่อยู่ใกล้ๆกันที่ชื่อว่ากรานนิ (Granni) ที่มีความหมายว่า "เพื่อนบ้าน".
น้ำตกทั้งสองแห่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำฟอสซ่า (Fossa) ที่เป็นสาขาของแม่น้ำธารน้ำแข็งเธียวซ่า (Þjórsá) ที่เป็นแม่น้ำที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และหากเป็นไปได้เราจะได้เดินทางไปถ่ายภาพน้ำตกแห่งที่สามในแม่น้ำแห่งนี้ที่ชื่อว่า ฮยาลปาร์ฟอสส์ (Hjálparfoss) ซึ่งการเดินทางมายังจุดหมายปลายทางนี้ คุณจะได้ค้นพบว่าน้ำตกแห่งนี้จะเป็นน้ำตกอีกแห่งที่คู่ควรกับการได้เก็บภาพไว้ในแฟ้มสะสมผลงานของคุณ.
ฮยาลปาร์ฟอสส์ถูกแบ่งเป็นสองชั้น และถูกล้อมรอบด้วยการก่อตัวของแนวหิวบะซอลต์ ที่ทำให้เกิดเป็นสีสันที่ตัดกันกับความขาวของน้ำตก.
หลังจากการถ่ายภาพน้ำตกที่งดงามเหล่านี้แล้ว เราจะตรงกลับไปยังโรงแรมไฮแลนด์ และคุณจะได้พักที่นี่ในคืนนี้.
คุณจะเดินทางผ่านธารน้ำแข็ง 3 แห่งในเส้นทางนี้ ได้แก่ ฮอฟส์โจกุล (Hofsjökull), ธุงนาเฟลล์โจกุล (Tungnafellsjökull) และวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่ราบสูงมีการเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งกับชาวบ้าน และแม้กระทั่งพวกนอกกฎหมายเคยมีการกล่าวว่าเคยได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ ฟยาลลา-อียวินดูร์ (Fjalla-Eyvindur) เคยเป็นแหล่งชุกชุมของพวกผิดกฎหมายมาก่อน และหลังจากนั้นที่ได้กลายเป็นแรงบัลดาลใจในการแต่งเพลงที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า สเปร็งกิซานดิ (Sprengisandi).
หลังจากการเดินทางข้ามที่ราบสูง เราจะได้ถ่ายภาพน้ำตกที่งดงาม 3 แห่ง ได้แก่ อาลเดยาร์ฟอสส์ (Aldeyjarfoss), ฮาฟนาบียอร์กาฟอสส์ (Hrafnabjargafoss) และโกดาฟอสส์ (Goðafoss) น้ำตกทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนแม่น้ำธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า สเกาด์ฟานดาฟยอร์จ (Skjálfandafljót).
ที่ความสูง 20 เมตร, อาลเดยาร์ฟอสส์มีสีที่ตัดกันระหว่างแนวหินบะซอลต์สีดำขนาดใหญ่และน้ำตกสีขาว ส่วนฮาฟนาบียอร์กาฟอสส์ก็มีความงดงามเช่นเดียวกัน ดังนั้นทำให้เป็นอีกภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมสำหรับอัลบั้มไอซ์แลนด์ที่กำลังเพิ่มจำนวนของคุณ.
แห่งสุดท้ายคือน้ำตกโกดาฟอสส์ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ และเป็นที่รู้จักว่าเป็น "น้ำตกของพระเจ้า" เนื่องจากตำนาน ที่ผู้นำ (โกดิ) และผู้ออกกฏหมาย ธอร์เกียร์ ธอร์เคลสัน (Þorgeir Þorkelsson) ได้จัดตั้งยุติความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างคริสเตียนและคนต่างศาสนาในปี 1000.
เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามกลางเมือง เขาได้ประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาระจำชาติของประเทศไอซ์แลนด์และโยนสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่งนอร์ดิกเก่าลงไปในน้ำตกโกดาฟอสส์.
คุณจะใช้เวลาคืนนี้ในที่พักบริเวณทะเสลายมิวาท์น.
ภายในทะเลสาบคุณจะได้เห็นเกาะขนาดเล็กจำนวนมาก บางเกาะเป็นปากปล่องปลอมๆ โดยธรรมชาติแล้วสำหรับนักถ่ายภาพสิ่งนี้ยิ่งกว่ามีค่ามาก คุณจะได้เห็นการก่อตัวของหินมากมายในพื้นที่ และภูมิภาคนี้ก็เต็มไปด้วยดอกไม้และบรรดาสัตว์ป่า.
เช่นเดียวกับลานมันนาเลยการ์ คุณสามารถเลือกที่จะแช่น้ำที่นี่ได้โดยการเพิ่มเข้าไประหว่างทำการจอง เราจะได้ถ่าพภาพที่งดงามของน้ำตกที่มีอยู่ตามบริเวณแม่น้ำธารน้ำแข็งโจกุลซา อา ฟยอร์ลุม (Jökulsá á Fjöllum) น้ำตกที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นน้ำตกที่มีพลังงานมากที่สุดในยุโรปที่ชื่อว่า น้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ที่มีความหมายว่า "กึกก้อง" น้ำตกแห่งนี้ตกลงมาที่ความสูง 45 เมตรลงไปในหุบเขาโจกุลซาร์เกรียวฟูร์ (Jökulsárgljúfur) ที่ทำให้เกิดหมอกจำนวนมาก.
จากที่กล่าวมา เราควรจะถ่ายภาพบริเวณพลังงานใต้พิภพ ภูเขาไฟ และปากปล่องที่พบได้รอบๆบริเวณ เราจะถ่ายภาพภูเขาไฟแฮคสร์แฟลล์ (Hverfjall) และปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ของที่นี่ รวมถึงสีสันของบริเวณพื้นที่พลังงานใต้พิภพเนามาฟย์าททางตะวันออกของมิวาท์น.
ที่นั่นคุณจะได้เห็นบ่อโคลนเดือด, พุกำมะถันและผลึกกำมะถันหลากสีที่ตกแต่งบริเวณ ขณะที่บริเวณนี้เหมาะกับการถ่ายภาพมาก แต่ที่นี่ก็มีไอน้ำจำนวนมาก รวมทั้งกลิ่นของซัลเฟอร์ที่ค่อนข้างแรง ดังนั้นกรุณาถ่ายภาพด้วยความระมัดระวัง.
ที่บริเวณพลังงานใต้พิภพของภูเขาเลร์ฮนูคูร์ (Leirhnjúkur) ที่อยู่ใกล้กับบริเวณภูเขาไฟคราฟรา เราจะได้พบกับบ่อโคลนเดือดหลากสีและพุก๊าซ รวมถึงเราจะยังได้เห็นปากปล่องไวติ (Viti) ที่มีทะเลสายสีเขียวตั้งอยู่ในฉากหลังที่งดงาม.
การปะทุของภูเขาไฟหลักๆ 2 ครั้งได้ทำให้เกิดรูปร่างบริเวณนี้ ได้แก่ ครั้งใหญ่ในมิวาท์นเมื่อศตวรรตที่ 18 และประมาณ 200 ปีหลังจากนั้นที่คราฟาเมื่อปี 1975-1984.
หลังจากช่วงเวลาแห่งการถ่ายภาพจบลง เราวางแผนที่จะใช้เวลาในคืนนี้ในมิวาท์นอีกคืน.
ถึงเวลาที่จะได้ถ่ายภาพอาคาร เราจะเน้นที่การถ่ายภาพของกราฟาร์คิร์คยา (Grafarkirkja) และที่ดินกลุมแบร์ (Glaumbær) กราฟาร์คิร์คยาเป็นสถาปัตยกรรมโบสถ์แบบง่ายๆที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นโบสถ์ขั้นบันไดแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17.
พิพิธภัณฑ์กลุมแบร์ประกอบด้วยทั้งฟาร์มหญ้าที่ได้รับการปรับปรุงและอาคารไม้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ถึง 19. พิพิธภัณฑ์จัดแสดงชีวิตในไอซ์แลนด์ในอดีต แม้ว่ามันอาจจะยากที่จะจินตนาการเพราะกลุมแบร์เคยมีประชากรอยู่อาศัยจนกระทั่งปี 1940.
สุดท้ายของวันนี้เราจะได้ถ่ายภาพน้ำตกเรคจาฟอสส์ (Reykjafoss) ที่งดงามในแม่น้ำสวาร์ตา (Svarta) ที่ไหลลงมา 3 ชั้นจากความสูง 14 เมตรอย่างงดงามตามหน้าผา นี่เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดและงดงามที่สุดในบริเวณนี้.
หลังจากวันแห่งการถ่ายรูปวันนี้ คุณจะได้ใช้เวลาในคืนนี้ในเกสท์เฮ้าส์เบคคาฟยอร์ดในสกาการ์ฟยอร์ดูร์ (Skagafjörður).
เราจะได้เที่ยวชมบริเวณพลังงานใต้พิภพที่อยู่ใกล้เคียงที่ชื่อว่า แควอาเวลลิร์ (Hveravellir) เป็นหนึ่งในพื้นที่พลังงานใต้พิภพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และต้องการความสนใจจากช่างภาพคนใดที่เห็นว่าควรค่ากับผลงานของเขา ที่นี่คุณจะได้เห็นน้ำพุร้อน, ควันก๊าซพุและพื้นผิวของหินที่หลากสี เราจะได้ถ่ายภาพน้ำตกอีกแห่งที่อยู่ใกล้เคียงชื่อว่า น้ำตกกลีกจาร์ฟอสส์ (Gýgjarfoss) ที่มีภูเขาและหินสีดำที่อยู่ล้อมรอบ ไม่ต้องสงสัยว่าที่นี่คุ้มค่ากับการแวะไปอย่างแน่นอน.
ที่พักคืนนี้จะอยู่ในบริเวณแคร์ลิงการ์ฟยอลล์.
สถานที่แรก คือ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือ "น้ำตกสีทอง" อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือน้ำตกที่เหมือนกับชื่อที่ได้รับ ที่นี่เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยงามและเหมาะแก่การถ่ายภาพในประเทศไอซ์แลนด์ ที่ตกลงมาจากความสูง 32 เมตรส่งเสียงกึกก้องอยู่ในหุบเขาแคบๆจากแม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา (Hvita).
สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งบนเส้นทางวงกลมทองคำที่คุณจะได้สำรวจ คือ บริเวณทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ แน่นอนว่าไกเซอร์ที่คุณจะสนใจจะมีชื่อว่าสโทรคูร์ (Strokkur) ที่ปล่อยน้ำร้อนออกมาที่ความสูง 15 - 20 เมตรในทุกๆ 5 นาที น้ำพุร้อนแห่งอื่นที่เป็นที่รู้จักชื่อว่า ลิทลิ สโทรคูร์ (Litli-Strokkur) และ สมิดูร์ (Smidur) ในทางเหนือคุณจะได้พบกับมวลไอน้ำและทางใต้จะเป็นบ่อโคลนเดือด.
หลังจากนั้น เราจะได้ตรงกลับไปยังเมืองเรคยาวิก และจะรับประทานอาหารร่วมกันเปรียบเทียบภาพถ่ายและกล่าวอำลา.
สุดท้ายคุณจะได้เดินทางไปยังสนามบินเคฟราวิก พร้อมนำความทรงจำและภาพการผจญภัยในกิจกรรมการถ่ายภาพของเรากลับไปกับคุณด้วย.
จนกว่าเราจะพบกันใหม่ เราหวังว่าคุณจะได้มีกิจกรรมการเดินทางถ่ายภาพที่งดงามบนแผ่นดินแห่งน้ำแข็งและไฟ.
- เราบริการทัวร์ที่มีจำนวนสูงสุดที่ 10-12คน. ด้วยเหตุผลที่คุณจะได้ทำความรู้จักกับไกด์ช่างภาพ และ พื่อที่คุณจะได้เข้าไปยังสถานที่ที่เหมาะแค่สำหรับคนกลุ่มเล็ก.
- แขกของเราจะได้คอลเล็กชั่นวิดีโอกระบวนการพัฒนาการถ่ายภาพจากช่างภาพพ่วงรางวัลของเรา ที่มีมูลค่ามากกว่า $1,500.
- เราบริการแค่โรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์เท่านั้น.
- ทัวร์ถ่ายรูป และ เวิร์คช๋อปของเราจะนำโดยช่างภาพพร้อมด้วยรางวัล
- เราบริการที่เการองเท้า และ บูทยาง ให้กับแขกทุกคนตลอดทริป
- ขณะออกทัวร์เราจะให้ข้อมูลที่มีค่ากับคุณ และ การอธิบายการถ่ายภาพ และ กระบวนการพัฒนาการถ่ายภาพ
- ไกด์ถ่ายรูปของเราจะคอยช่วยเหลือคุณ เพื่อที่จะให้คุณนำรูปที่สวยงามของไอซ์แลนด์กลับบ้าน
We highly recommend that you get a travel and medical insurance. Your own domestic medical insurance and private health scheme will not cover you whilst you are overseas. The tour is always dependent on weather, as the Icelandic weather can indeed be highly unpredictable. Likewise, visits to ice caves are dependent on favorable conditions, and indeed the ice caves themselves are not permanent. When it comes to the Northern Lights, while they are most likely to be seen between September and April, there is no guarantee that they will appear on a given day.
11-23 Jul 2023