เวิร์คชอปถ่ายภาพ 4 วันช่วงฤดูร้อนในประเทศไอซ์แลนด์

1 / 26
เวิร์คชอปถ่ายภาพ 4 วันช่วงฤดูร้อนในประเทศไอซ์แลนด์
ขายเกือบหมดแล้ว
ขายเกือบหมดแล้ว
ไม่คิดค่ายกเลิก.
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
สามารถจัดตามความต้องการได้เต็มที่

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่
เวลา
--:--
--:--
ผู้เดินทาง
1
จาก: เมืองเรคยาวิก

คำอธิบาย

สรุป

ทัวร์เริ่มจาก
Reykjavík, Iceland
ระยะเวลา:
4 วัน
Ending place
Reykjavík, Iceland
ภาษา:
English
ความยากลำบาก:
ง่าย
ที่มีอยู่:
มิถุนายน - ส.ค.
อายุต่ำสุด:
None
286 รีวิว

คำอธิบาย

เก็บภาพความสว่างไสวของพระอาทิตย์เที่ยงคืนในประเทศไอซ์แลนด์ในเวิร์คช๊อปถ่ายภาพ 4 วันอันน่าทึ่ง ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ซึ่งภูมิภาคส่วนนี้ของประเทศเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ รวมถึงน้ำตกที่มีเสียงดังกึกก้องบนชายฝั่งทางใต้ ธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่ หาดทรายสีดำที่ทอดยาวสุดสายตา ทะเลสาบธารน้ำแข็ง และความงดงามแสนพิเศษของศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell)

ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไอซ์แลนด์ ที่ดวงอาทิตย์แทบจะไม่ลับขอบฟ้า นั่นส่งผลให้ทั่วทั้งประเทศมีแสงตะวันเกือบ 24 ชั่วโมง และช่วงเวลาของแสงสีทองที่จะให้คุณได้ชื่นชมมากขึ้น ทำให้ช่วงฤดูร้อนเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการออกสำรวจประเทศ ในวันที่อากาศอบอุ่นแบบนนี้ก็จะมีสัตว์ป่ามากมายกลับสู่เกาะ บรรดาดอกไม้ป่าและมอสไอซ์แลนด์พากันเบ่งบานทำให้เป็นช่วงเวลาสีเขียวชอุ่มอีกครั้ง คุณจะได้มีโอกาสชมนกพัฟฟินที่ทำรังอยู่ตามแนวชายฝั่ง รวมถึงเจ้าแมวน้ำที่ออกมานอนอาบแดดบนภูเขาน้ำแข็ง และแน่นอนคุณจะได้ถ่ายภาพอันน่าทึ่งของไดมอนด์บีชและทะเลสาบโจกุลซาลอน (Jökulsárlón)

ที่พักทั้งสามคืนของคุณในระหว่างทัวร์นี้จะถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า และคุณจะได้เดินทางอย่างสะดวกสบายไปยังสถานที่ที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์เพื่อถ่ายภาพ ไกด์ถ่ายภาพผู้เชี่ยวชาญของคุณจะพร้อมให้ความช่วยเหลือคุณตลอดเวลาเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะอยู่ในสถานที่ที่ยอดเยี่ยม เพื่อคุณได้รับประโยชน์สูงสุดในสภาวะที่ดีที่สุดต่างๆ รวมถึงพวกเขาจะแบ่งปันความรู้ให้กับคุณ และสอนทุกสิ่งที่คุณควรรู้ทั้งในและนอกสถานที่เพื่อให้คุณสามารถยกระดับทักษะการถ่ายภาพของคุณไปได้อีกขั้น

ทัวร์ถ่ายภาพในประเทศไอซ์แลนด์นี้เหมาะสำหรับช่างภาพทุกระดับฝีมือ ทัวร์นี้มีความน่าสนใจให้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นเพียงแค่ผู้เริ่มต้นเรียนรู้ หรือมืออาชีพตัวยง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการร่วมชมสถานที่ที่งดงามที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ทั้งในและนอกเส้นทาง

ไม่ควรพลาดการผจญภัยไปที่คุณจะจดจำไปชั่วชีวิต! คว้าโอกาสที่คุณจะได้ในการถ่ายภาพประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูร้อน พร้อมทั้งการสำรวจภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งของประเทศภายใต้ความอบอุ่นของพระอาทิตย์เที่ยงคืน สามารถตรวจสอบโปรแกรมได้ด้วยการเลือกวันเดินทางของคุณ

อ่านเพิ่ม

รวมในแพ็คเกจ

ไกด์ถ่ายภาพมืออาชีพ
ยานพาหนะขนส่งที่สะดวกสบาย
ที่พัก 3 คืนบริเวณใกล้อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลและหมู่บ้านวิก
อาหารเช้า
Pick up in Reykjavik
Drop off in Reykjavik
Post-processing and photography lectures
Photography videos worth $1,500

กิจกรรม

ดูนก
ทัวร์ถ่ายรูป
เวิร์คช็อปถ่ายรูป

แผนที่

สถานที่ท่องเที่ยว

SeljalandsfossSeljalandsfoss
SkógafossSkógafoss
DyrhólaeyDyrhólaey
ReynisdrangarReynisdrangar
Vatnajökull National ParkVatnajökull National Park
JökulsárlónJökulsárlón
Diamond BeachDiamond Beach
FjallsárlónFjallsárlón
BreiðamerkurjökullBreiðamerkurjökull
VíkVík
Skaftafell Skaftafell
VestrahornVestrahorn
FjaðrárgljúfurFjaðrárgljúfur
Þingvellir National ParkÞingvellir National Park
GullfossGullfoss
GeysirGeysir
ÖxarárfossÖxarárfoss
ไอซ์แลนด์ไอซ์แลนด์

แผนการเดินทางรายวัน

วัน 1

วัน 1 - ชายฝั่งทางใต้ไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน

การผจญภัยของคุณจะเริ่มต้นแต่เช้าตรู่ในวันที่ 1 โดยไกด์ถ่ายภาพจะเดินทางไปรับคุณยังโรงแรมที่พักในตัวเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) จากที่นั่นคุณจะได้เดินทางตรงไปยังชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ที่เป็นสถานที่ตั่งของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันแสนพิเศษที่สุดของประเทศ การเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล คุณจะได้หยุดพักเพื่อถ่ายภาพอันงดงามหลายแห่งระหว่างทาง เนื่องจากคุณจะได้เดินทางลัดเลาะไปตามแนวชายฝั่ง คุณจะสังเกตุเห็นว่าทิวทัศน์รอบๆ ตัวคุณจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป ภูมิทัศน์ของความเป็นตัวเมืองจะถูกแทนที่ด้วยทุ่งลาวาที่ถูกปกคลุมด้วยหญ้ามอสขนาดใหญ่ และคุณจะได้เห็นธารน้ำแข็งที่กำลังส่องประกายแต่งแต้มอยู่ตรงริมขอบฟ้า จุดแวะแรกของคุณได้แก่น้ำตกน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่น่าตื่นตา น้ำตกแห่งนี้ตกลงมาจากความสูงถึง 60 เมตร และมีทัศนียภาพที่น่ามหัศจรรย์ รวมถึงคุณจะได้ถ่ายภาพที่มีองค์ประกอบหลากหลายจำนวนมากหรือบางทีองค์ประกอบภาพที่งดงามที่สุดอาจจะอยู่ตรงด้านหลังของม่านน้ำตก ที่ไหลตกลงมายังถ้ำหน้าผาขนาดใหญ่ คุณอาจจะต้องเปียกเล็กน้อยเพื่อที่จะได้ภาพอันทรงคุณค่า จากที่นั่นคุณจะได้เดินทางตรงไปยังน้ำตกน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว เพราะน้ำตกแห่งนี้ตกลงมาโดยมีหน้าผาสีดำล้อมรอบม่านน้ำตกที่เสียงคำรามกึกก้องนี้ ซึ่งคุณอาจจะต้องใช้ความกล้าสักหน่อยในการเข้าไปชมน้ำตกแห่งนี้ใกล้ๆ ที่นี่เป็นสถานที่ ที่เหมาะสำหรับการฝึกทักษะการถ่ายภาพเอฟเฟ็กต์ต่างๆ เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การใช้ควาเร็วชัตเตอร์ในแบบที่แตกต่างกัน แม้ว่าคุณจะสามารถเดินไปยังฐานของน้ำตกได้ แต่คุณก็ยังสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ที่งดงามด้วยการปีนขึ้นบันไดเพื่อชมทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของทุกสวยงามด้านล่าง หลังจากนั้นคุณจะได้มุ่งหน้าเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันในบริเวณใกล้เคียง ก่อนเดินทางกันต่อ เพื่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่าวิก (Vík) ซึ่งตลอดการเดินทางคุณจะแวะพักที่หน้าผาที่มีความพิเศษที่ชื่อว่าดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) ที่นั่นมีบรรดานกพัฟฟินมาทำรังตลอดแนวชายฝั่ง ทำให้ที่นั่นเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการดูนกและถ่ายภาพคลื่นอันทรงพลังที่เคลื่อนตัวมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ที่ไม่ไกลกันนั้นคุณจะสามารถมองเห็นกองหินทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่มีชื่อเสียง ที่ตั้งตระหง่านขึ้นมาจากน่านน้ำที่วุ่นวายด้านล่าง จากนั้นคุณจะได้เดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนถึงยังที่พักภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล และหลังจากเช็คอินแล้ว คุณจะมีเวลาพักผ่อนและเติมความสดชื่นก่อนที่คุณจะต้องออกไปค้นหาแสงสีทองของพระอาทิตย์เที่ยงคืน หากสภาพอากาศเป็นใจ คุณอาจได้ถ่ายภาพแสงแรกที่ไดมอนด์บีชหรือที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) คุณจะได้เข้าพักคืนนี้ในที่พักบริเวณใกล้เคียง
อ่านเพิ่ม
วัน 2

วัน 2 - อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล

เรามีเวลาไม่มากนักในช่วงระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงฤดูร้อนของประเทศไอซ์แลนด์ดังนั้นคุณจะต้องตื่นแต่เช้า หากคุณต้องการชมแสงแรกเหนือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนในวันที่สอง! ที่นี่จะเป็นจุดที่ภูเขาน้ำแข็งที่แตกออกจากธารน้ำแข็งเปรียดาร์แมร์คูร์โจกุล (Breiðamerkurjökull) ที่อยู่ใกล้เคียง ไหลลงสู่น่านน้ำอันสงบนิ่งก่อนที่จะถูกพัดออกสู่ทะเล ในช่วงวันที่อบอุ่นที่มีแสงสีทองจากดวงอาทิตย์ปกคลุม คุณอาจจะได้ชมแมวน้ำนอนอาบแดดอยู่บนภูเขาน้ำแข็ง บริเวณนี้ยังเป็นที่อยู่ของนกทะเลจำนวนมากดังนั้นเตรียมพร้อมที่จะใช้เลนส์เทเลโฟโต้ด้วย! ที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งคือไดมอนด์บีชอันโด่งดัง ชายหาดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ภูเขาน้ำแข็งถูกซัดขึ้นไปทำให้ดูคล้ายอัญมณีระยิบระยับภายใต้แสงแดด การถ่ายภาพแรกของคุณที่นี่ จะเป็นภาพที่ทำใหคุณรู้สึกตื่นเต้นราวกับอะดรีนาลีนของคุณสูบฉีด ในขณะที่คุณกำลังพยายามจัดระเบียบภาพถ่ายของภูเขาน้ำแข็งและเกลียวคลื่นที่กระทบกับเท้าของคุณแต่ละภาพ อาจจะต้องใช้เทคนิคของการถ่ายภาพแบบมืออาชีพในการถ่ายภาพอันแสนงดงามที่นี่ แต่คุณสามารถมั่นใจได้เลย เพราะว่าคุณจะได้มีโอกาสในการฝึกซ้อมมากมายในระหว่างการทำทำเวิร์คช๊อปของคุณ ในส่วนที่เหลือของวัน คุณจะได้ใช้เวลานี้ในการสำรวจยอดเขาหิมะ น้ำตก และบริเวณโดยรอบที่สวยงามของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) มีบริเวณปลายธารน้ำแข็งหลายแห่งในละแวกใกล้เคียง หากสภาพอากาศเป็นใจ คุณก็สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมทะเลสาบธารน้ำแข็งและสถานที่ที่น่าตื่นเต้นอื่นๆ ที่อยู่นอกเส้นทางได้ เพื่อโอกาศในการมองหาองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบในช่วงที่มีพระอาทิตย์เที่ยงคืนเกิดขึ้น คุณจะได้เข้าพักคืนที่สองในที่พักภายในบริเวณใกล้เคียงกับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
อ่านเพิ่ม
วัน 3

วัน 3 - อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล

ในวันที่สาม คุณจะต้องตื่นแต่เช้า เพื่อโอกาสในการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นอีกครั้งที่ไดมอนด์บีชและทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน และนี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณในการถ่ายภาพชายฝั่งสีดำที่ถูกแต่แต้มด้วยภูเขาน้ำแข็งที่ถูกซัดขึ้นไปบนหาดทราย หลังจากนั้นคุณจะได้ออกสำรวจอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลและบริเวณโดยรอบ คุณจะมีโอกาสในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ มากน้อยแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสภาพอากาศและแสง และก็ยังมีอะไรอีกมากมายให้คุณได้ชมและถ่ายภาพ ในขณะที่คุณกำลังเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านวิก คุณอาจจะได้มีโอกาสไปเที่ยวชมภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) อันยิ่งใหญ่ ที่นั่นมีพืชพรรณที่ถูกลมพัดพริ้วไหว ผสมมผสานเนินทรายสีดำ คุณยังสามารถไปเที่ยวชมธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svínafellsjökull) หรือ หุบเขาฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) ที่ถูกล้อมรอบด้วยมอสสีเขียวชอุ่ม ทันทีที่คุณเดินทางมาถึงหมู่บ้านวิก คุณจะต้องทำการเช็คอินยังที่พัก ก่อนออกเดินทางไปสำรวจหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีชื่อเสียง ที่นี่มีคลื่นขนาดใหญ่จากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือม้วนตัวซัดขึ้นฝั่ง บรรจบกับเสาหินบะซอลต์อันน่าทึ่งที่ก่อตัวเป็นหน้าผาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอันโด่งดัง คุณอาจมีโอกาสไปชมนกพัฟฟินอาศัยตามแนวหน้าผานี้ บินออกไปจับปลาในทะเลก่อนที่จะเดินทางกลับมายังรังของมัน หากฟ้ายังไม่มืด คุณอาจจะได้เดินทางไปสำรวจน้ำตกที่ซ่อนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หรือเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวอันงดงามของโบสถ์สีขาวในหมู่บ้านวิกที่ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าดอกลูปินสีม่วง คุณจะเข้าพักคืนนี้ที่หมู่บ้านวิก
อ่านเพิ่ม
วัน 4

วัน 4 - วงกลมทองคำและเดินทางกลับเมืองเรคยาวิก

ในวันที่สี่คุณจะตื่น แต่เช้าตรู่เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ชั้นหินทะเลทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ในบริเวณจุดชมวิวที่แตกต่างกัน สภาพอากาศของที่นี่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และนั่นทำให้หาดทรายสีดำมีความงดงามที่แตกต่างกัน แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับสภาวะของแสงด้วย หลังจากนั้นคุณจะเริ่มต้นการเดินทางเพื่อกลับสู่เมืองเรคยาวิก โดยใช้เส้นทางอ้อมผ่านวงกลมทองคำ (Golden Circle) อันโด่งดัง เส้นทางนี้ประกอบขึ้นจากสามสถานที่ที่มีชื่อเสียงได้แก่ ธิงเวลลีย์ (Þingvellir) กุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) และ ไกเซอร์ (Geysir) ในขณะที่คุณเดินทางผ่านสถานที่เหล่านี้คุณจะได้เรียนรู้ว่าทำไมประเทศไอซ์แลนด์จึงได้รับฉายาว่า "ดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง" บริเวณทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ เป็นบริเวณที่มีน้ำร้อนพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินด้านล่าง เพื่อแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ คุณจะเห็นสายพุก๊าซ รวมถึงสีสันของดินที่เป็นผลมากจากกิจกรรมความร้อนใต้พิภพ ไฮไลท์ของที่นี่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณมีโอกาสถ่ายภาพน้ำพุร้อนที่ปะทุออกมาจากไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ซึ่งจะมีการปะทุขึ้นทุกๆ 5-10 นาทีขึ้นไปในอากาศ! จากที่นั่นคุณจะได้เดินทางต่อไปยังน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งถือเป็นน้ำตกอันทรงพลังที่ตกลงมาจากทั้ง 2 ฝั่งของหน้าผาลงไปยังหุบเขาด้านล่าง คุณจะได้มีโอกาสเข้าใกล้น้ำตก เพื่อถ่ายภาพแบบนามธรรม ภาพพื้นผิว หรือยืนห่างออกไปเพื่อจับภาพมุมกว้างทั้งหมด สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของวันนี้ คุณจะได้เยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ ซึ่งเป็นแหล่งประวัติศาสตร์และสถานที่ทางธรณีวิทยาที่สำคัญของประเทศไอซ์แลนด์ และที่นี่ยังเป็นที่ประชุมรัฐสภาเก่าเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่แผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและอเมริกาเหนือบรรจบกัน และแผ่นเปลือกโลกทั้งสองได้แยกตัวออกจากกัน รอยแยกที่น่าทึ่งนี้มีมอส และสระน้ำลึกส่องประกาย ทำให้เกิดองค์ประกอบภาพที่หลากหลาย เราจะโฟกัสไปที่น้ำตกอ๊อกซาร่าฟอสส์ (Öxararfoss) อันมีเสน่ห์ที่ตั้งอยู่ในใจกลางอุทยานแห่งชาตินี้ หลังจากนั้นเราจะมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองเรคยาวิกซึ่งในช่วงเย็นเย็น ไกด์ถ่ายภาพของคุณจะไปส่งคุณยังที่พักของคุณ จากนั้นคุณจะได้มีอิสระในการสำรวจเมือง โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณได้มีการพัฒนาทักษะการถ่ายภาพใหม่ติดตัวคุณมาด้วย รวมถึงภาพถ่ายจำนวนมากไว้ให้คุณระลึกถึงเมื่อคุณกลับถึงบ้าน และเพื่อนใหม่ที่คุณได้รู้จักจากการทำเวิร์คช๊อปครั้งนี้
อ่านเพิ่ม

ขั้นตอนง่ายๆ

สิ่งที่ควรนำไป

Warm, waterproof clothing
Camera and equipment

สิ่งที่ควรรู้

- เราเป็น บริษัท ทัวร์ท้องถิ่นและตัวแทนการท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการท่องเที่ยวของประเทศไอซ์แลนด์

- เรามีทัวร์กลุ่มย่อยที่มีขนาดกลุ่มสูงสุด 10-12 ด้วยวิธีนี้คุณจะได้รู้จักคู่มือการถ่ายภาพของคุณและเราสามารถพาคุณไปถ่ายภาพในสถานที่ที่ไม่เหมือนใครซึ่งไม่เหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่

- ลูกทัวร์ของเราทุกคนจะได้รับวิดีโอคอลเลกชันหลังจากการประมวลผล ฟรี จากช่างภาพที่ได้รับรางวัลของเรา ที่มีมูลค่ากว่า 1,500 ดอลลาร์

- ในทัวร์นี้ เราได้ใช้ยานพาหนะที่สะดวกสบายในการขนส่งคุณ เพื่อไปยังสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างปลอดภัย

- เราใช้เฉพาะโรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์

- ไกด์ทัวร์ถ่ายภาพและเวิร์กช็อปของเราเป็นช่างภาพมืออาชีพที่ได้รับรางวัล

- เราให้บริการอุปกรณ์กันลื่นรองเท้าและรองเท้าบูทให้กับลูกทัวร์ของเราฟรีตลอดการเดินทาง.

- ในระหว่างทัวร์ เราจะให้คำแนะนำและข้อมูลพร้อมทั้งการบรรยายสรุปที่สามารถทำตามได้ง่าย

- ไกด์ถ่ายภาพของเราจะให้ช่วยคุณในการถ่ายภาพในสถานที่จริง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้นำรูปถ่ายที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ติดมือกลับบ้านไปด้วย.

อ่านเพิ่ม

คำปฎิเสธขอเรียกร้อง

เราขอแนะนำให้คุณนำประกันการท่องเที่ยว และ ประกันแพทย์มาด้วย. ประกันการแพธย์จากรัฐบาลในประเทศ และ ประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชนของคุณ จะไม่รองรับเมื่อคุณอยู่ต่างประเทศ.

ทัวร์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และ สภาพอากาศในประเทศไอซ์แลนด์นั้นไม่สามารถคาดเดาได้. เหมือนกับการเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และ ถ้ำน้ำแข็งนั้นไม่คงที่. เมื่อพูดถึงแสงเหนือนั้น พวกเขาสามารถเห็นได้ในเดือน กันยายน ไปถึง เดือน เมษายน แต่ไม่มีการการันตี ว่าพวกเขาจะปรากฎในวันที่เลือก.

วันเดินทางและรายชื่อไกด์

11-14 มิถุนายน 2020 - นำเที่ยวโดย จอน (Jon)

9-12 กรกฎาคม 2020 - นำเที่ยวโดย จอน

23-26 กรกฎาคม 2020 - นำเที่ยวโดย แคสปาร์ส (Kaspars)

6-9 สิงหาคม 2020 - นำเที่ยวโดย จอน

20-23 สิงหาคม 2020 - นำเที่ยวโดย จอน

ไกด์นำเที่ยว

Kaspars Dzenis

Kaspars Dzenis

English, Icelandic
ดูหน้าโปรไฟล์

There’s no doubt that immersing oneself in nature with a camera can reinvigorate the soul.

For Kaspars, this has become a lifetime passion that he pursues all across the rugged and pristine landscapes of Iceland. For this intrepid explorer, there is nothing more exciting than to get off the beaten track, traversing the last remnants of wilderness left to be discovered in this world.

His enduring belief is that there are still many grand scenes in Iceland that are yet to be photographed; his sense for adventure is a testament to the energy that he puts into finding them. With an intimate knowledge of the Icelandic landscape and having guided countless photography workshops, Kaspars is well-versed in working with the unique and oftentimes dramatic conditions that this country has to offer.

You can rest assured that he will bring you to the most epic locations in Iceland where you’ll be able to capture the immense beauty that epitomises the Arctic. Well-accomplished in both Lightroom and Photoshop, Kaspars has an extensive understanding of complex post-processing techniques that will assist you to no bounds with unleashing your creativity and finding your own style.

His mellow outlook and easygoing, relaxed nature will have you feeling at home with your camera and your tripod in Iceland in no time.

Born in the heart of the volcanic landscapes of Auvergne, France, Clément Coudeyre made a life-changing decision years ago to explore the world. In 2013, he traded his shirt and tie for a backpack, a camera, and a few lenses, setting off on a journey that would redefine his perspective.

Through his lens, he rediscovered the world, capturing its beauty in France, New Zealand, Iceland, and Canada. But beyond breathtaking landscapes, his travels have been enriched by the people he’s met locals and fellow wanderers who share his passion for adventure.

A restless explorer at heart, stopping is no longer an option. Each journey calls for the next, and as his gear grows heavier, so do the miles beneath his feet. With every step, he collects moments, smiles, and stories, feeling at home wherever the road takes him.

Drawn to the golden and blue hues of dawn and dusk, Clément immerses himself in photography, both in the field and in post-processing. With a graphic tablet in hand, he transforms his images, blurring the line between photography, digital art, and painting, allowing creativity to take over.

Country after country, he has come to realize that sharing is at the core of his adventures. Naturally, this passion led him to teaching, helping others turn their love for photography into a profession.

Today, Clément calls Iceland home. When he’s not capturing its raw, untamed beauty, he works as a glacier guide continuing to explore, learn, and share his vision of the world. 

Vincenzo is a nature and landscape photographer. He has been doing landscape photography since 2010, mostly between Italy and Iceland. Born in Italy he moved to Iceland in 2015, after spending many months in that country during the years before to practice landscape photography.

He has been teaching photography and running photo tours since 2011, mostly in Iceland and in Italy. In 2015 he was among the winner photographers of the BBC Wildlife Photographer of the Year international nature photography competition. 

In Iceland he become a mountain and a glacier guide, and he is now an official member of the association of the Icelandic mountain guides.

Regarding his approach to photography, he like to consider himself a storyteller. He believes that his pictures are the result of diligence, creativity and technical skills in the field but most of all unconditional love for nature landscapes.

He would define his pictures as “authentic”, they are a faithful representation of the reality at the moment of the photo shooting, prior to all the obvious adjustments which are essential to the optimization of the picture.

Regarding that aspect, he said: “Nature is so impressive, inspiring and magnificent! if I created pictures with Photoshop, mixing up places and different moments I wouldn’t be the storyteller I want to be. Photography is an interpretation of an evanescent moment. Intuition and passion are needed on the playground of nature”.

Jón is a native Icelander, pro landscape and nature photographer, loves the northern lights and tries different technic capturing them - panorama, vertorama and time lapse.

Jón started taking photography seriously 10 years ago and since then he has held numerous exhibitions all over Iceland and published two photo books. He has been recognised and awarded internationally for his work. His pictures has been published all over the world in newspapers, magazines and various books.

Jón has a great passion for photography and travelling, he attempts to highlight interesting landscape, nature and known landmarks. Often the subject is approached during the twilight, when land and light merge together in undisclosed harmony

เรารับประกัน

ทริปของคุณจะปลอดภัย ปรับตามความต้องการได้ และคุ้มราคา ไม่มีเรื่องไม่คาดคิด ไม่ต้องกังวล

ทัวร์ที่คล้ายกัน