ทัวร์ถ่ายภาพยอดนิยมและเวิร์คช็อป
เดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุด
ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไอซ์แลนด์ ที่ดวงอาทิตย์แทบจะไม่ลับขอบฟ้า นั่นส่งผลให้ทั่วทั้งประเทศมีแสงตะวันเกือบ 24 ชั่วโมง และช่วงเวลาของแสงสีทองที่จะให้คุณได้ชื่นชมมากขึ้น ทำให้ช่วงฤดูร้อนเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการออกสำรวจประเทศ ในวันที่อากาศอบอุ่นแบบนนี้ก็จะมีสัตว์ป่ามากมายกลับสู่เกาะ บรรดาดอกไม้ป่าและมอสไอซ์แลนด์พากันเบ่งบานทำให้เป็นช่วงเวลาสีเขียวชอุ่มอีกครั้ง คุณจะได้มีโอกาสชมนกพัฟฟินที่ทำรังอยู่ตามแนวชายฝั่ง รวมถึงเจ้าแมวน้ำที่ออกมานอนอาบแดดบนภูเขาน้ำแข็ง และแน่นอนคุณจะได้ถ่ายภาพอันน่าทึ่งของไดมอนด์บีชและทะเลสาบโจกุลซาลอน (Jökulsárlón)
ที่พักทั้งสามคืนของคุณในระหว่างทัวร์นี้จะถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า และคุณจะได้เดินทางอย่างสะดวกสบายไปยังสถานที่ที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์เพื่อถ่ายภาพ ไกด์ถ่ายภาพผู้เชี่ยวชาญของคุณจะพร้อมให้ความช่วยเหลือคุณตลอดเวลาเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะอยู่ในสถานที่ที่ยอดเยี่ยม เพื่อคุณได้รับประโยชน์สูงสุดในสภาวะที่ดีที่สุดต่างๆ รวมถึงพวกเขาจะแบ่งปันความรู้ให้กับคุณ และสอนทุกสิ่งที่คุณควรรู้ทั้งในและนอกสถานที่เพื่อให้คุณสามารถยกระดับทักษะการถ่ายภาพของคุณไปได้อีกขั้น
ทัวร์ถ่ายภาพในประเทศไอซ์แลนด์นี้เหมาะสำหรับช่างภาพทุกระดับฝีมือ ทัวร์นี้มีความน่าสนใจให้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นเพียงแค่ผู้เริ่มต้นเรียนรู้ หรือมืออาชีพตัวยง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการร่วมชมสถานที่ที่งดงามที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ทั้งในและนอกเส้นทาง
ไม่ควรพลาดการผจญภัยไปที่คุณจะจดจำไปชั่วชีวิต! คว้าโอกาสที่คุณจะได้ในการถ่ายภาพประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูร้อน พร้อมทั้งการสำรวจภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งของประเทศภายใต้ความอบอุ่นของพระอาทิตย์เที่ยงคืน สามารถตรวจสอบโปรแกรมได้ด้วยการเลือกวันเดินทางของคุณ
เนื่องจากคุณจะได้เดินทางลัดเลาะไปตามแนวชายฝั่ง คุณจะสังเกตุเห็นว่าทิวทัศน์รอบๆ ตัวคุณจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป ภูมิทัศน์ของความเป็นตัวเมืองจะถูกแทนที่ด้วยทุ่งลาวาที่ถูกปกคลุมด้วยหญ้ามอสขนาดใหญ่ และคุณจะได้เห็นธารน้ำแข็งที่กำลังส่องประกายแต่งแต้มอยู่ตรงริมขอบฟ้า
จุดแวะแรกของคุณได้แก่น้ำตกน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่น่าตื่นตา น้ำตกแห่งนี้ตกลงมาจากความสูงถึง 60 เมตร และมีทัศนียภาพที่น่ามหัศจรรย์ รวมถึงคุณจะได้ถ่ายภาพที่มีองค์ประกอบหลากหลายจำนวนมากหรือบางทีองค์ประกอบภาพที่งดงามที่สุดอาจจะอยู่ตรงด้านหลังของม่านน้ำตก ที่ไหลตกลงมายังถ้ำหน้าผาขนาดใหญ่ คุณอาจจะต้องเปียกเล็กน้อยเพื่อที่จะได้ภาพอันทรงคุณค่า
จากที่นั่นคุณจะได้เดินทางตรงไปยังน้ำตกน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว เพราะน้ำตกแห่งนี้ตกลงมาโดยมีหน้าผาสีดำล้อมรอบม่านน้ำตกที่เสียงคำรามกึกก้องนี้ ซึ่งคุณอาจจะต้องใช้ความกล้าสักหน่อยในการเข้าไปชมน้ำตกแห่งนี้ใกล้ๆ
ที่นี่เป็นสถานที่ ที่เหมาะสำหรับการฝึกทักษะการถ่ายภาพเอฟเฟ็กต์ต่างๆ เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การใช้ควาเร็วชัตเตอร์ในแบบที่แตกต่างกัน แม้ว่าคุณจะสามารถเดินไปยังฐานของน้ำตกได้ แต่คุณก็ยังสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ที่งดงามด้วยการปีนขึ้นบันไดเพื่อชมทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของทุกสวยงามด้านล่าง
หลังจากนั้นคุณจะได้มุ่งหน้าเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันในบริเวณใกล้เคียง ก่อนเดินทางกันต่อ เพื่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่าวิก (Vík) ซึ่งตลอดการเดินทางคุณจะแวะพักที่หน้าผาที่มีความพิเศษที่ชื่อว่าดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) ที่นั่นมีบรรดานกพัฟฟินมาทำรังตลอดแนวชายฝั่ง ทำให้ที่นั่นเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการดูนกและถ่ายภาพคลื่นอันทรงพลังที่เคลื่อนตัวมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ที่ไม่ไกลกันนั้นคุณจะสามารถมองเห็นกองหินทะเลเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่มีชื่อเสียง ที่ตั้งตระหง่านขึ้นมาจากน่านน้ำที่วุ่นวายด้านล่าง
จากนั้นคุณจะได้เดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนถึงยังที่พักภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล และหลังจากเช็คอินแล้ว คุณจะมีเวลาพักผ่อนและเติมความสดชื่นก่อนที่คุณจะต้องออกไปค้นหาแสงสีทองของพระอาทิตย์เที่ยงคืน หากสภาพอากาศเป็นใจ คุณอาจได้ถ่ายภาพแสงแรกที่ไดมอนด์บีชหรือที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón)
คุณจะได้เข้าพักคืนนี้ในที่พักบริเวณใกล้เคียง
ที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งคือไดมอนด์บีชอันโด่งดัง ชายหาดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ภูเขาน้ำแข็งถูกซัดขึ้นไปทำให้ดูคล้ายอัญมณีระยิบระยับภายใต้แสงแดด การถ่ายภาพแรกของคุณที่นี่ จะเป็นภาพที่ทำใหคุณรู้สึกตื่นเต้นราวกับอะดรีนาลีนของคุณสูบฉีด ในขณะที่คุณกำลังพยายามจัดระเบียบภาพถ่ายของภูเขาน้ำแข็งและเกลียวคลื่นที่กระทบกับเท้าของคุณแต่ละภาพ อาจจะต้องใช้เทคนิคของการถ่ายภาพแบบมืออาชีพในการถ่ายภาพอันแสนงดงามที่นี่ แต่คุณสามารถมั่นใจได้เลย เพราะว่าคุณจะได้มีโอกาสในการฝึกซ้อมมากมายในระหว่างการทำทำเวิร์คช๊อปของคุณ
ในส่วนที่เหลือของวัน คุณจะได้ใช้เวลานี้ในการสำรวจยอดเขาหิมะ น้ำตก และบริเวณโดยรอบที่สวยงามของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) มีบริเวณปลายธารน้ำแข็งหลายแห่งในละแวกใกล้เคียง หากสภาพอากาศเป็นใจ คุณก็สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมทะเลสาบธารน้ำแข็งและสถานที่ที่น่าตื่นเต้นอื่นๆ ที่อยู่นอกเส้นทางได้ เพื่อโอกาศในการมองหาองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบในช่วงที่มีพระอาทิตย์เที่ยงคืนเกิดขึ้น
คุณจะได้เข้าพักคืนที่สองในที่พักภายในบริเวณใกล้เคียงกับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
หลังจากนั้นคุณจะได้ออกสำรวจอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลและบริเวณโดยรอบ คุณจะมีโอกาสในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ มากน้อยแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสภาพอากาศและแสง และก็ยังมีอะไรอีกมากมายให้คุณได้ชมและถ่ายภาพ ในขณะที่คุณกำลังเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านวิก คุณอาจจะได้มีโอกาสไปเที่ยวชมภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) อันยิ่งใหญ่ ที่นั่นมีพืชพรรณที่ถูกลมพัดพริ้วไหว ผสมมผสานเนินทรายสีดำ คุณยังสามารถไปเที่ยวชมธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svínafellsjökull) หรือ หุบเขาฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) ที่ถูกล้อมรอบด้วยมอสสีเขียวชอุ่ม
ทันทีที่คุณเดินทางมาถึงหมู่บ้านวิก คุณจะต้องทำการเช็คอินยังที่พัก ก่อนออกเดินทางไปสำรวจหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีชื่อเสียง ที่นี่มีคลื่นขนาดใหญ่จากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือม้วนตัวซัดขึ้นฝั่ง บรรจบกับเสาหินบะซอลต์อันน่าทึ่งที่ก่อตัวเป็นหน้าผาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอันโด่งดัง คุณอาจมีโอกาสไปชมนกพัฟฟินอาศัยตามแนวหน้าผานี้ บินออกไปจับปลาในทะเลก่อนที่จะเดินทางกลับมายังรังของมัน
หากฟ้ายังไม่มืด คุณอาจจะได้เดินทางไปสำรวจน้ำตกที่ซ่อนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หรือเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวอันงดงามของโบสถ์สีขาวในหมู่บ้านวิกที่ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าดอกลูปินสีม่วง
คุณจะเข้าพักคืนนี้ที่หมู่บ้านวิก
หลังจากนั้นคุณจะเริ่มต้นการเดินทางเพื่อกลับสู่เมืองเรคยาวิก โดยใช้เส้นทางอ้อมผ่านวงกลมทองคำ (Golden Circle) อันโด่งดัง เส้นทางนี้ประกอบขึ้นจากสามสถานที่ที่มีชื่อเสียงได้แก่ ธิงเวลลีย์ (Þingvellir) กุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) และ ไกเซอร์ (Geysir) ในขณะที่คุณเดินทางผ่านสถานที่เหล่านี้คุณจะได้เรียนรู้ว่าทำไมประเทศไอซ์แลนด์จึงได้รับฉายาว่า "ดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง"
บริเวณทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ เป็นบริเวณที่มีน้ำร้อนพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินด้านล่าง เพื่อแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ คุณจะเห็นสายพุก๊าซ รวมถึงสีสันของดินที่เป็นผลมากจากกิจกรรมความร้อนใต้พิภพ ไฮไลท์ของที่นี่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณมีโอกาสถ่ายภาพน้ำพุร้อนที่ปะทุออกมาจากไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ซึ่งจะมีการปะทุขึ้นทุกๆ 5-10 นาทีขึ้นไปในอากาศ!
จากที่นั่นคุณจะได้เดินทางต่อไปยังน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งถือเป็นน้ำตกอันทรงพลังที่ตกลงมาจากทั้ง 2 ฝั่งของหน้าผาลงไปยังหุบเขาด้านล่าง คุณจะได้มีโอกาสเข้าใกล้น้ำตก เพื่อถ่ายภาพแบบนามธรรม ภาพพื้นผิว หรือยืนห่างออกไปเพื่อจับภาพมุมกว้างทั้งหมด
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของวันนี้ คุณจะได้เยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ ซึ่งเป็นแหล่งประวัติศาสตร์และสถานที่ทางธรณีวิทยาที่สำคัญของประเทศไอซ์แลนด์ และที่นี่ยังเป็นที่ประชุมรัฐสภาเก่าเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่แผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและอเมริกาเหนือบรรจบกัน และแผ่นเปลือกโลกทั้งสองได้แยกตัวออกจากกัน รอยแยกที่น่าทึ่งนี้มีมอส และสระน้ำลึกส่องประกาย ทำให้เกิดองค์ประกอบภาพที่หลากหลาย เราจะโฟกัสไปที่น้ำตกอ๊อกซาร่าฟอสส์ (Öxararfoss) อันมีเสน่ห์ที่ตั้งอยู่ในใจกลางอุทยานแห่งชาตินี้
หลังจากนั้นเราจะมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองเรคยาวิกซึ่งในช่วงเย็นเย็น ไกด์ถ่ายภาพของคุณจะไปส่งคุณยังที่พักของคุณ จากนั้นคุณจะได้มีอิสระในการสำรวจเมือง โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณได้มีการพัฒนาทักษะการถ่ายภาพใหม่ติดตัวคุณมาด้วย รวมถึงภาพถ่ายจำนวนมากไว้ให้คุณระลึกถึงเมื่อคุณกลับถึงบ้าน และเพื่อนใหม่ที่คุณได้รู้จักจากการทำเวิร์คช๊อปครั้งนี้
- เรามีทัวร์กลุ่มย่อยที่มีขนาดกลุ่มสูงสุด 10-12 ด้วยวิธีนี้คุณจะได้รู้จักคู่มือการถ่ายภาพของคุณและเราสามารถพาคุณไปถ่ายภาพในสถานที่ที่ไม่เหมือนใครซึ่งไม่เหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่
- ลูกทัวร์ของเราทุกคนจะได้รับวิดีโอคอลเลกชันหลังจากการประมวลผล ฟรี จากช่างภาพที่ได้รับรางวัลของเรา ที่มีมูลค่ากว่า 1,500 ดอลลาร์
- ในทัวร์นี้ เราได้ใช้ยานพาหนะที่สะดวกสบายในการขนส่งคุณ เพื่อไปยังสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างปลอดภัย
- เราใช้เฉพาะโรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์
- ไกด์ทัวร์ถ่ายภาพและเวิร์กช็อปของเราเป็นช่างภาพมืออาชีพที่ได้รับรางวัล
- เราให้บริการอุปกรณ์กันลื่นรองเท้าและรองเท้าบูทให้กับลูกทัวร์ของเราฟรีตลอดการเดินทาง.
- ในระหว่างทัวร์ เราจะให้คำแนะนำและข้อมูลพร้อมทั้งการบรรยายสรุปที่สามารถทำตามได้ง่าย
- ไกด์ถ่ายภาพของเราจะให้ช่วยคุณในการถ่ายภาพในสถานที่จริง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้นำรูปถ่ายที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ติดมือกลับบ้านไปด้วย.
เราขอแนะนำให้คุณนำประกันการท่องเที่ยว และ ประกันแพทย์มาด้วย. ประกันการแพธย์จากรัฐบาลในประเทศ และ ประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชนของคุณ จะไม่รองรับเมื่อคุณอยู่ต่างประเทศ. ทัวร์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และ สภาพอากาศในประเทศไอซ์แลนด์นั้นไม่สามารถคาดเดาได้. เหมือนกับการเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และ ถ้ำน้ำแข็งนั้นไม่คงที่. เมื่อพูดถึงแสงเหนือนั้น พวกเขาสามารถเห็นได้ในเดือน กันยายน ไปถึง เดือน เมษายน แต่ไม่มีการการันตี ว่าพวกเขาจะปรากฎในวันที่เลือก.
11-14 มิถุนายน 2020 - นำเที่ยวโดย จอน (Jon) 9-12 กรกฎาคม 2020 - นำเที่ยวโดย จอน 23-26 กรกฎาคม 2020 - นำเที่ยวโดย แคสปาร์ส (Kaspars) 6-9 สิงหาคม 2020 - นำเที่ยวโดย จอน 20-23 สิงหาคม 2020 - นำเที่ยวโดย จอน