เวิร์คช็อป 10 วันถ่ายภาพบนเส้นทางวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูร้อน มีแนวโน้มที่จะขายออกเร็ว ๆ นี้
แผนการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
สามารถจัดตามความต้องการได้เต็มที่
ทัวร์เริ่มจาก
Reykjavík, Iceland
Ending place
Reykjavík, Iceland
ที่มีอยู่:
มิถุนายน. - กรกฎาคม.
คำอธิบาย แผนการเที่ยวรายวัน
วัน 1 - เดินทางมาถึงในวันแรกของคุณจะเป็นการพักผ่อนเพื่อที่จะช่วยให้คุณรู้สึกบรรเทาหลังจากการเดินทางและเตรียมตัวสำหรับการเดินทางข้างหน้า คุณจะมาถึงยังสนามบินนานาชาติเคฟราวิก (Keflavík) และขึ้นรถรับ-ส่งสนามบินเพื่อเดินทางไปยังโรงแรมของคุณในเมืองหลวงเรคยาวิก (Reykjavík).
ทันที่คุณไปถึงที่นั่น คุณสามารถผ่อนคลายจนกระทั่งถึงช่วงเย็น (หรือออกไปสำรวจวัฒนธรรมของเมือง) ก่อนที่จะได้พบกับกลุ่มของคุณและไกด์เพื่อมื้ออาหารที่เอร็ดอร่อย.
ระหว่างอาหารเย็น คุณจะได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับการได้เรียนรู้เกี่ยวกับตารางการเดินทางในเวิร์คช็อปให้มากขึ้น ทันทีที่คุณอิ่ม พึงพอใจและพร้อมสำหรับการเดินทางข้างหน้า คุณจะได้กลับไปพักผ่อนในคืนนี้.
อ่านเพิ่ม
วัน 2 - น้ำตกชายฝั่งทางใต้ในวันที่สอง การผจญภัยของคุณจะเริ่มขึ้นด้วยการเดินทางออกจากเมืองเรคยาวิกเพื่อไปทางชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ แผ่นดินที่ทอดยาวเต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและทิวทัศน์ที่โดดเด่น เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย.
จุดแรกสำหรับการถ่ายภาพจะเป็นสองน้ำตกที่งดงาม ที่แรก คือ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่มีน้ำตกที่แคบและตกลงมาจากความสูงที่มากกว่า 60 เมตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโดดเด่นในเรื่องของการที่น้ำตกลงมาจากถ้ำหน้าผานั่นหมายถึงคุณสามารถเดินไปด้านหลังเพื่อชมมุมมองที่น่าทึ่ง.
และตรงบริเวณใกล้ๆ คือ น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) อาจจะดูแปลกตาน้อยกว่าแต่มีความงดงามเท่าๆกัน น้ำตกที่นี่ตกลงมาจากที่ความสูงเดียวกับเซลยาแลนศ์ฟอสส์และมีความกว้างกว่ามาก ที่กว้างถึง 20 เมตรวัดจากด้านหลังของน้ำตกหนัก หากพระอาทิตย์ส่องแสง เป็นปกติที่จะได้เห็นซุ้มสายรุ้งจากมวลละอองน้ำที่หนาแน่น ที่เกิดมาจากการที่น้ำตกกระทบกับพื้นโลก บันไดทางด้างข้างน้ำตกจะนำคุณเข้าใกล้น้ำตกมากขึ้นจากอีกมุมหนึ่ง.
หลังจากที่ใช้เวลาอย่างเพียงพอในแต่ละที่แล้วเพื่อจะได้ภาพที่สมบูรณ์ที่สุด คุณจะเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านวิก (Vík) ที่คุณจะได้พักผ่อนในคืนนี้.
ก่อนที่คุณจะได้พักผ่อน คุณจะได้มีโอกาสที่จะถ่ายภาพความยิ่งใหญ่ของลักษณะทางธรรมชาติที่ชายหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ภายใต้พระอาทิตย์เที่ยงคืน.
เรย์นิสฟยาราเคยถูกเลือกให้เป็นชายหาดนอกเขตร้อนที่สวยที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ที่งดงามและน่าขนลุก ชายหาดทรายดำที่ทอดยาวไปสุดสายตาดูน่าขนลุก พลังงานของมหาสมุทรแอตแลนติกที่งดงาม และล้อมรอบด้วยภูมิภาคที่น่าหลงไหล.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชั้นหินเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่สูงขึ้นไปจากผิวของน้ำทะเล ที่ถูกเชื่อว่าเป็นโทรลที่กลายร่างตอนพระอาทิตย์ขึ้น.
นั่นทำให้เกิดภาพที่ยอดเยี่ยม แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องเว้นระยะจากขอบของน้ำเนื่อจากอาจมีคลื่นยักษ์ที่อันตรายแม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่ปกติ.
อ่านเพิ่ม
วัน 3 - ฮุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลล์วันที่สามของเวิร์คช็อปช่วงฤดูร้อนนี้ คุณจะได้กลับไปถ่ายภาพที่เรย์นิสฟยารา และเรนิสแดรงเกอร์ในช่วงเวลาที่ต่างกันของวัน จากนั้นคุณจะได้ตรงไปยังหน้าผาดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) และซุ้มหินเพื่อโอกาสในการถ่ายภาพสถานที่และสัตว์ป่าที่น่าเหลือเชื่อ.
จากระยะไกล ขนาดและรูปร่างของซุ้มทำให้สถานที่นี้ดูน่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากทะเล และหาดทรายสีดำโดยรอบ หากเข้าไปใกล้คุณจะได้เห็นภาพที่มีศักยภาพสำหรับการถ่ายภาพ เพราะภูมิภาคที่นี่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว.
คุณจะสามารถพบ ตัวอย่างเช่น แนวหินบะซอลต์หกเหลี่ยมที่อยู่ตรงข้ามกับหน้าผา ความงดงามของธรรมชาติที่หายากนี้เป็นรูปแบบที่สุดยอดที่ดูเหมือนว่า ถูกสกัดด้วยมือ และสามารถหาดูได้จากไม่กี่สถานที่รอบๆโลก.
เนื่องจากนี่เป็นเวิร์คช็อปการถ่ายภาพหน้าร้อนในไอซ์แลนด์ คุณจะไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะเป็นเวลาที่คุณจะได้ถ่ายภาพฝูงนกพัฟฟินและที่ดิร์โอลาเอย์คุณจะมีโอกาสมากมายในการถ่ายภาพ นกตัวเล็กๆ น่ารักเหล่านี้ทำรังที่นี่หลายพันตัวและที่น่าปะหลาดใจ คือ ไม่มีความหวาดกลัวผู้คนเลย ฝูงนกจะอนุญาตให้คุณเข้าใกล้เพียงพอเพื่อที่จะจับภาพใบหน้าที่มีเสน่ห์และเงอะงะของพวกเขา ด้วยพฤติกรรมที่น่ารักทำให้นี่เป็นภาพที่สุดยอดสำหรับช่างภาพสัตว์ป่า.
คุณจะได้มีโอกาสในการถ่ายภาพหมู่บ้านวิก ที่เป็นหมู่บ้านที่งดงามและเงียบสงบ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติรวมถึงทุ่งดอกลูปินสีม่วงที่ทอดยาวไปสุดตา นี่จะทำให้เมมโมรี่การ์ดของคุณเต็มยิ่งขึ้นไปอีกจากในช่วงเช้า คุณจะได้พักผ่อนอย่างสะดวกสบายในที่พักที่นี่ในช่วงสิ้นสุดวันนี้.
อ่านเพิ่ม
วัน 4 - อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลวันนี้คุณจะได้ตรงไปยังสองสถานที่ที่งดงามที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ที่ตั้งอยู่ข้างๆกันในอีกฝั่งหนึ่งทางฝั่งตะวันออกของชายฝั่งทางใต้ ทั้งสองแห่งตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล ได้แก่ ศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárón).
สกัฟตาเฟลล์ มักจะถูกกล่าวถึงว่าเป็น "สวรรค์ของนักปีนเขา" ดังนั้นที่นี่จะมีสถานที่มากพอให้คุณจับภาพ พื้นที่และลักษณะจำนวนมากที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เพราะสวรรค์ทางธรรมชาติสามารถพบได้ในบริเวณนี้ ปลายธารน้ำแข็ง, ทะเลสาบ, น้ำตก, ผืนป่า, แม่น้ำ, ภูเขาไฟและพื้นที่ลาวาจะออกมาแสดงตัวให้คุณเห็นและถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง.
คุณจะมีเวลามากมายที่นี่ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนเพื่อที่จะถ่ายภาพภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากที่ไหลมาเติมเต็มทะเลสาบภายใต้แสงของพระอาทิตย์เที่ยงคืน.
มีโอกาสในการถ่ายภาพมากมายที่นี่แบบไม่มีจบสิ้น น้ำแข็งแต่ละก้อนจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน แต่ละแสงที่ตกกระทบลงมาจะทำให้องค์ประกอบภาพของคุณเปลี่ยนแปลง และน้ำแข็งก็มีการเคลื่อนไหวต่อไป ที่นี่ไม่ใช่เพียงเหมาะสำหรับช่างภาพทิวทัศน์เท่านั้นที่จะชื่นชอบที่นี่ แต่ช่างภาพสิ่งมีชีวิตก็จะชื่นชอบบริเวณนี้เช่นกันเนื่องจากมีโอกาสมากมายในการจับภาพประชากรแมวน้ำของทะเลสาบนี้ด้วย.
คุณจะได้ตรงไปยังไดมอนด์บีช ชายหาดทรายดำที่ทอดยาวอยู่ติดกับโจกุลซาลอน ที่น้ำแข็งถูกซัดขึ้นไปบนชายฝั่งหลังจากไปถึงที่มหาสมุทร การตัดกันระหว่างน้ำแข็งสีฟ้า คลื่นสีขาว ทรายสีเข้มและท้องฟ้าช่วงฤดูร้อนสีฟ้าใสจะทำให้เกิดเป็นภาพที่ดีเยี่ยมที่จะเพิ่มเข้าไปในแฟ้มผลงานของคุณ.
คุณจะได้พักผ่อนในที่พักรอบๆบริเวณนี้.
อ่านเพิ่ม
วัน 5 - ภูเขาเวสตราฮอร์น & ฟยอร์ดตะวันออกโจกุลซาลอนและไดมอนด์บีช ที่กล่าวมาด้านบน จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้เงื่อนไขของแสงและสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าคุณจะมีความยินดีที่จะได้กลับไปถ่ายภาพบริเวณนี้อีกครั้งในวันที่ห้า ความงดงามของมุมนี้ของประเทศไอซ์แลนด์สามารถรับประกันการถ่ายภาพวันนี้ได้ แต่ที่นี่มีอะไรให้ดูมากกว่านั้น และหลังจากไม่กี่ชั่วโมงคุณจะได้ตรงไปยังจุดถ่ายภาพถัดไปที่จะต้องได้รับความสนใจจากคุณ.
ภูเขาเวสตราฮอร์นมียอดเขาลางๆแม้แต่ภายใต้ช่วงพระอาทิตย์เที่ยงคืน ภูเขาแห่งนี้ขรุขระ แห้งแล้งและมีสีเทา นี่ถือเป็นหนึ่งในภูเขาไฟหินอัคนีไม่กี่แห่งในประเทศไอซ์แลนด์และตั้งตระหง่านอย่างดงาม คุณจะสามารถถ่ายภาพภูเขาลูกนี้ท่ามกลางทรายสีดำ, เนินทรายหรือพร้อมกับท้องทะเลที่งดงามรอบๆบริเวณ ดังนั้นคุณจะใช้เวลาทั้งวันของคุณรอบบริเวณคาบสมุทรสตอกกเนสส์ เพื่อมองหาจุดถ่ายภาพที่ดีที่สุดเพื่อที่จะถ่ายภาพภูเขาลูกนี้.
ก่อนที่จะพักผ่อนในคืนที่ห้านี้ คุณจะได้มีโอกาสในการถ่ายภาพทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนและไดมอนด์บีชอีกครั้ง.
อ่านเพิ่ม
วัน 6 - มิวาท์นวันที่หกนี้จะเป็นวันสุดท้ายของคุณในทางตะวันออกของทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ และคุณจะได้ใช้ช่วงเวลานี้ที่จะได้กลับไปยังสถานที่ที่กลุ่มของคุณต้องการไปถ่ายภาพเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องสงสัยว่าจะรวมไปถึงที่โจกุลซาลอนและไดมอนด์บีช เพราะโอกาสนี้จะมีมากมายและพิเศษมาก.
อย่างไรก็ตามไกด์ถ่ายภาพ จะใช้วันนี้ในการที่จะนำคุณไปยังบริเวณที่มีคนรู้จักน้อยกว่า มีเพียงไม่มีกี่คนเท่านั้นที่จะรู้จักที่นี่ สถานที่นี้อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลและปรับแต่งเพื่อให้คุณได้ถ่ายภาพพาโนรามาที่ไม่น่าเชื่อของไอซ์แลนด์ใต้และธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป.
อ่านเพิ่ม
วัน 7 - ภูมิภาคมิวาท์นในวันที่เจ็ดนี้ คุณจะได้เดินทางออกจากชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ และตรงไปทางเหนือ การเดินทางนี้จะนำคุณเดินทางไปอีกเล็กน้อยในฟยอร์ดทางตะวันออกที่น่าตื่นตา คุณจะได้หยุดแวะเพื่อที่จะได้ถ่ายภาพพื้นที่ทะเล, หมู่บ้านที่สงบสุขและสัตว์ป่าที่อยู่กันอย่างอิสระมากมาย รวมไปถึงฝูงนก, แมวน้ำหรือแม้แต่กวางเรนเดียร์ก็สามารถพบเห็นได้ในบริเวณนี้.
ช่วงแรกของการเดินทางนี้ คุณจะได้ไปถ่ายภาพภูเขาเวสตราฮอร์นแต่จะเป็นอีกมุมระหว่างเส้นทางการเดินทางของคุณ การเดินทางจะค่อนข้างยาวนานแต่จะล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและน่าประทับใจ.
จุดหมายปลายทางของคุณคือทะเลสาบมิวาท์น (Mývatn) ที่คุ้มค่ากับการเดินทางที่ยาวนาน.
บริเวณภูมิภาคมิวาท์นมีสถานที่ที่น่าตื่นตามากมายเพื่อให้คุณได้ถ่ายภาพภายใต้แสงอาทิตย์เที่ยงคืน ได้แก่ บริเวณพลังงานใต้ภิภพ, ภูมิภาคที่มหัศจรรย์, ภูเขาไฟที่อุดมสมบูรณ์และสายน้ำที่ทอดยาวอย่างงดงาม นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลว่าคุณจะไม่ได้เห็นสถานที่ทั้งหมดในช่วงเย็นนี้ เพราะคุณจะมีพรุ่งนี้ทั้งวันในบริเวณนี้.
อ่านเพิ่ม
วัน 8 - เขตมิวาท์นในวันที่แปดคุณจะได้โอกาศที่จะกลับไปยังสถานที่ที่คุณอาจจะอยากถ่ายอีกครั้ง ในแสงที่แตกต่างเช่นที่เดตติฟอสส์, และ โกดฟอสส์. ไกด์ทัวร์ของคุณจะพาคุณไปยังสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักในเขตมิวาท์นเช่นกัน. ที่มิวาท์นนั้นเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการถ่ายรูปลายน้ำด้วยโดรน และอย่าลืมที่จะบินโดรนไปบนปล่องภูเขาไฟที่อยู่ด้านบน!
อ่านเพิ่ม
วัน 9 - ไปเรคยาวิกในวันสุดท้ายของคุณในเวิร์คช็อปถ่ายภาพภายใต้พระอาทิตย์เที่ยงคืนในประเทศไอซ์แลนด์, คุณจะได้เดินทางช้าๆกลับไปยังโรงแรมของคุณในเมืองเรคยาวิก ที่พลังงานของคุณจะได้รับการฟื้นฟูหลังจากการเดินทางในอาทิตย์ที่ผ่านมาอย่างไม่ต้องสงสัย. แม้ว่าการเดินทางจะใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง แต่เราก็จะจอดแวะระหว่างทางเพื่อให้คุณได้ยืดเส้นยืดสาย.
อ่านเพิ่ม
วัน 10 - เดินทางกลับน่าเศร้าว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในประเทศไอซ์แลนด์ของคุณ หากคุณมีเวลาในตอนเช้า คุณอาจจะใช้ช่วงเวลานี้ในการใช้ทักษะใหม่ของคุณในการถ่ายภาพสถานที่ในบริเวณเมืองหลวงเรคยาวิกที่มีวัฒนธรรมที่น่าหลงไหล, ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ดังนั้นคุณจะได้เห็นจุดถ่ายภาพสุดท้ายที่จะได้เติมเต็มเมมโมรี่การ์ดของคุณ.
เมื่อถึงเวลา คุณจะได้เดินทางกลับไปยังสนามบินและเดินทางกลับบ้านหรือไปยังจุดหมายปลายทางถัดไป พร้อมกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตในการท่องเที่ยวและถ่ายภาพประเทศไอซ์แลนด์ภายใต้พระอาทิตย์เที่ยงคืน.
อ่านเพิ่ม
Disclaimer We highly recommend that you get a travel and medical insurance. Your own domestic medical insurance and private health scheme will not cover you whilst you are overseas.
The tour is always dependent on weather, as the Icelandic weather can indeed be highly unpredictable. Likewise, visits to ice caves are dependent on favorable conditions, and indeed the ice caves themselves are not permanent. When it comes to the Northern Lights, while they are most likely to be seen between September and April, there is no guarantee that they will appear on a given day.
Departure Schedule 3-12 Jul 2023
5-14 Jun 2024
3-12 Jul 2024
ไกด์นำเที่ยว
Siggi was born in Iceland and has spent most of his photography career in this paradise.During his time as a photographer, he early on found that his passion lies with photographing the beautiful landscapes and nightscapes of Iceland. One of his favorite activities is being out, chasing the northern lights and thinking of new ways to top his shots.
He has won multiple awards for his work, both locally and internationally, especially for his photos of the Aurora Borealis. Sigurdur has also written a book on the subject to aid everyone in getting the perfect shots of Lady Aurora and held nightscape photography workshops in Iceland since the beginning of 2012 with great success.
When the days get longer and the northern lights fade into the daylight, he turns his eyes towards the sun and the amazing midnight sun that Iceland has to offer with the golden hours that seem to stretch on forever.