แพ็คเกจ 6 วันซัมเมอร์ + ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน

วันนี้คุณจะไปทัวร์หนึ่งวันบนเส้นทางวงกลมทองคำ ซึ่งมีทั้งน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ที่มีน้ำพุร้อนไกเซอร์ และอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) ที่นี่จะเป็นอุทยานฯ แห่งแรกที่คุณจะเข้าไปชม ซึ่งคุณจะได้ไปทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน และที่ธิงเวลลีย์นี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากจนได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกเนื่องจากเมื่อปี 930 ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ตั้งของสภาอัลทิงกิของไอซ์แลนด์มาก่อน นอกจากนี้ธิงเวลลีย์ยังมีชื่อเสียงในทางธรณีวิทยาด้วย เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกของสองทวีปมาพบกัน คุณจะได้เห็นรอยแยกบนพื้นดินซึ่งเป็นตำแหน่งที่แผ่นเปลือกโลกของทวีปยุโรปและอเมริกามาบรรจบกันที่รอยแยกซิลฟรา หากคุณอยากหาอะไรสนุกๆ ทำบนพื้นที่ระหว่างสองทวีปนี้คุณสามารถเลือกจองทัวร์ลงไปดำน้ำตื้นที่รอยแยกนี้ก็ได้! จุดหมายปลายทางต่อไปคือทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ที่นี่คุณจะได้เห็นน้ำพุร้อนเดอะเกรตไกเซอร์ (Geysir) อันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นที่มาของคำว่าไกเซอร์ที่ใช้เรียกน้ำพุร้อนที่อื่นๆ ทั่วโลกด้วย บริเวณนี้เต็มไปด้วยบ่อน้ำร้อน ไกเซอร์ และบ่อไอร้อนมากมาย และแม้ว่าเดอะเกรตไกเซอร์น้ำพุร้อนต้นตำรับจะมอดดับไม่พ่นน้ำแล้ว แต่น้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) ซึ่งอยู่ข้างๆ กันนั้นยังพ่นน้ำถี่มากและพ่นได้สูงถึง 60 เมตร (196 ฟุต) เลย สถานที่สุดท้ายสำหรับวันนี้คือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หากสภาพอากาศเอื้ออำนวยคุณจะได้เดินเข้าไปดูน้ำตกอันสวยงามแห่งนี้แบบใกล้ชิดเพื่อชมมวลน้ำตกลงในหุบเขาแม่น้ำกลาเซียร์ฮวิทเอา (Hvítá) โดยน้ำตกจะลดหลั่นเป็นสองชั้นก่อนไหลลงจากความสูงกว่า 30 เมตร ถ้าคุณนึกอยากเพิ่มอะไรที่สร้างความกระปรี้กระเปร่าให้กับทัวร์ในวันนี้หน่อย ในตอนท้ายของวันคุณอาจจะเลือกเดินทางออกจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ด้วยการขี่ม้าก็ได้ ซึ่งเป็นโอกาสที่คุณจะได้รู้จักกับม้าไอซ์แลนดิกและธรรมชาติของไอซ์แลนด์ดียิ่งขึ้นไปขึ้นอีก หรือคุณจะเลือกทริปขี่สโนว์โมบิลซึ่งเร็วกว่ามากและเดินทางไปยังธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) แทนก็ได้ ทั้งหมดนี้คุณสามารถกำหนดได้เอง แต่หากคุณต้องการพักผ่อนหลังจากที่เดินทางเหนื่อยมาทั้งวัน คุณจะไปแช่น้ำร้อนเพื่อผ่อนคลายที่สปาความร้อนใต้พิภพฟอนทานา (Fontana) ก็เป็นกิจกรรมปิดท้ายที่สบายอย่าบอกใคร หลังจากจบทัวร์วงกลมทองคำแล้ว ระหว่างเดินทางกลับไปยังเรคยาวิก คุณสามารถแวะสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษไม่เหมือนใครของไอซ์แลนด์ได้ที่บลูลากูน โดยคุณจะได้ผ่อนคลายและน้ำสีฟ้าจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อให้คุณรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว ทั้งนี้หากคุณต้องการทำกิจกรรมระหว่างที่ไปทัวร์วงกลมทองคำ เช่น ดำน้ำตื้น ขี่ม้า หรือขี่สโนว์โมบิล คุณจะได้ไปที่บลูลากูนไม่วันแรกที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ก็จะเป็นวันสุดท้ายก่อนกลับแทน น้ำในทะเลสาบแห่งนี้อุดมด้วยแร่ธาตุและโด่งดังไปทั่วโลกเพราะสรรพคุณในการรักษาโรค ดังนั้นที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณต้องอยากใช้เวลาเพลิดเพลินกับมันนานๆ แน่นอน หลังจากนั้นคุณจะเดินทางกลับเข้าไปที่เรคยาวิกและพักค้างคืนที่ในเมือง หากคุณยังตื่นเต้นกับประสบการณ์ในเมืองอยู่เราก็ยังมีกิจกรรมพิเศษที่ออกแบบตามความต้องการของคุณอีกมากมาย คุณแค่เตรียมแรงมาให้พร้อมแล้วเที่ยวเรคยาวิกอย่างที่คุณฝันไว้ได้เลย!

วันนี้คุณจะออกเดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้อันงดงามของไอซ์แลนด์ไปเรื่อยๆ จนถึงอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökul) ซึ่งเป็นอุทยานฯ แห่งที่สองของทริปนี้ ระหว่างทางคุณจะผ่านน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) ซึ่งมีความสูงไม่ต่างกันแต่มีขนาดความกว้างของน้ำตกที่แตกต่างกันมาก แห่งหนึ่งเป็นน้ำตกที่น้ำไม่ค่อยแรงแลดูมีความอ่อนโยนและมีอุโมงค์อยู่ที่ด้านหลังน้ำตกให้เข้าไปเดินชมวิวสวยๆ ที่ด้านหลังแบบไม่เหมือนที่ไหนได้ด้วย ส่วนอีกแห่งเป็นน้ำตกที่ทรงพลังมากและมีมวลน้ำไหลแรงกว่าที่ใดๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาการพจญภัยที่แปลกใหม่คุณสามารถเพิ่มทัวร์ปีนน้ำแข็งเกลเซียร์ได้ ในขณะที่คุณทำการจองทัวร์. ทัวร์นี้เหมาะสำหรับทุกคนที่มีอายุมากกว่า 8ปี และ ทัวร์นี้จะพาคุณให้ไปดูธารน้ำแข็งเกลเซียร์แบบเจาะลึก ด้วยไกด์ที่ได้รับการเตรียมพร้อมมาแล้ว. ไกด์จะพาคุณข้ามผ่านพื้นน้ำแข็งที่ลื่น ไปที่ธารน้ำแข็งเกลเซียร์ โซลเฮมาร์โจกุล (Sóleheimajökull) ที่ที่คุณจะสามารถเห็นวิว ที่สวยงามของคาปมหาสมุทรทางใต้ได้. และหลังจากนั้นคุณก็จะได้เดินทางไปที่ทรายหาดดำ ที่ เรย์นิิสฟยารา (Reynisfjara) ที่ที่น้ำทะเลจากคาปมหาสมุทรแอทลานติก พัดมาที่คาบสหาสมุทรด้วยพลังที่น่าประทับใจ. อย่าลืมที่จะสอดสายตามองหา นกพัฟฟินที่น่ารัก เพราะคุณอาจจะโชคดีเจอพวกเขาก็เป็นได้. และคุณก็จะได้เดินทางไปที่ อุทยานแห่งชาติ วัทยาโจกุล (Vantajökull National Park) ที่ที่คุณจะพักค้างคื่นที่นั่น.

วันนี้ คุณจะได้เริ่มต้นวันใหม่ของคุณภายใต้เงาขงธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) และคุณจะได้ไปที่จุดท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม ที่ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Jökulsárlón). ที่ที่ก้อนน้ำแข็งมหึมาที่ยิ่งใหญ่ได้แตกสลายจากจากธารน้ำแข็ง และได้ไหลมารวมตัวกันที่ธารน้ำแข็งแห่งนี้. หากคุณมาท่องเที่ยวเริ่มจากเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป และ ต้องการที่จะเห็น ก้อนน้ำแข็งแบบใกล้ชิด คุณสามารถที่จะร่องเรือเข้าไปชมใกล้ๆได้เช่นกัน. สำหรับการล่องเรือ คุณจะได้ขึ้นเรือครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่ทุกคนสามารถร่วมได้ไม่จำกัดอายุ ลอยไปบนน้ำที่นิ่งสงบ. ใกล้ๆกันกับธารน้ำแข็งนั้นคือ หาดทรานเพชร (Diamond Beach) ที่ที่ ก้อนน้ำแข็งได้แตกสลาย และละเลงอย่าตามหาดทราบ ทำให้เมื่อแสงพระอาร์ทิตย์มากระทบ แล้วมีลักษณะคล้ายเพชร. หลังจากนั้นคุณก็จะได้เดินทางกลับเมืองเรคยาวิก ในวันที่อากาศปลอดโปร่งถ้ามองไปทางใต้คุณจะเห็นไกลถึงเกาะเวสท์มานนาเอยาร์  (Vestmannaeyjar) ส่วนทางเหนือจะเห็นธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) และเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) เลย และทางตะวันออกและตะวันตกจะเห็นไปไกลถึงหาดทรายดำ ในตอนเย็นคุณจะกลับเข้าเรคยาวิกและพักค้างคืนที่ในเมือง.

ในวันนี้คุณสามารถเลือกที่จะใช้วันว่างเดินเล่นบนถนนที่น่ารักในเมืองเรคยาวิก คุณสามารถเพลินเพลินกับวัฒนธรรมนอร์ดิก ช็อปปิ้ง หรือเที่ยวบาร์ก็ได้ หรือว่าคุณจะเตรียมหมวกและถุงมือให้พร้อมและออกเดินทางไปกับทัวร์หนึ่งวันเพื่อไปชมคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes Peninsula) อันสวยงามในทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ มงกุฎแห่งสไนล์แฟลซเนสคือภูเขาไฟธารน้ำแข็งสไนเฟลล์โจกุล (Snæfellsjökull) ซึ่งโด่งดังมาจากนิยายคลาสสิกของจูลส์ เวิร์น (Jules Verne) เรื่องการเดินทางสู่ใจกลางโลก (Journey to the Centre of the Earth) โดยในนิยายนั้นสไนเฟลล์โจกุลเป็นตำแหน่งของทางเข้าสู่ใจกลางโลกอันลึกลับ บริเวณรอบๆ ธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็นทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยหญ้ามอสและมีถ้ำอยู่หลายแห่ง อุทยานแห่งชาติสไนเฟลล์โจกุล (Snæfellsjökull National Park) เป็นอุทยานฯ เพียงแห่งเดียวในไอซ์แลนด์ที่อยู่ติดทะเลและหน้าผาริมทะเลก็มีความสวยงามมากจริงๆ โดยสามารถมองเห็นได้จากเมืองเล็กๆ ชื่อว่าเฮลล์นาร์ (Hellnar) และอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) ในทริปนี้คุณจะได้เดินทางไปยังหาดดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) ที่เต็มไปด้วยกรวดและโค้งน้ำที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วยเพื่อไปดูน้ำตกเล็กๆ และไปภูเขาเคิร์คจูแฟส (Kirkjufell) อันโด่งดังที่อยู่ใกล้กับเมืองกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายภาพยอดฮิตกับฉากภูเขาที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำของสระน้ำที่อยู่ใกล้กัน หากว่าคุณอยากพจญภัยมากขึ้น คุณสามารถร่วมกิจกรรมขับ ATV ได้. รถจะไปรับคุณจากที่พักของคุณในเมืองเรคยาวิกไปที่สถานที่ทำกิจกรรม และคุณจะได้ใส่อุปกรณ์ที่อุ่น และ ป้องกันอันตราย. เมื่อฟังคำอธิบายเสร็จแล้วคุณจะได้ออกเดินทางชมความสวยงามของพื้นที่นอกเมือง และเมื่อคุณทำกิจกรรมเสร็จแล้วคุณจะได้กลับมาที่พักในเมืองเรคยาวิก. หลังจากออกเที่ยวมาแล้วคุณจะเดินทางกลับเรคยาวิก ซึ่งคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายในไอซ์แลนด์สำหรับคุณ

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ทริปดีๆ ก็เช่นกัน ในที่สุดคุณก็มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายของทริปครั้งนี้. สำหรับคนที่มีเที่ยวบินช่วงเย็นและอยากที่จะไปชมบลูลากูน คุณจะได้ท่องเที่ยวทุกสถานที่ก่อนออกเดินทางไปสนามบิน. นี่คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนขณะที่คุณอาบน้ำในน้ำอุ่นและน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยเมื่อคุณมองย้อนกลับไปในการผจญภัยที่เหลือเชื่อที่คุณเพิ่งมีในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง หากเที่ยวบินของคุณออกช่องเย็นมีหลายสิ่งให้ทำในเรคยาวิก หากคุณมีเที่ยวบินช่วงเช้สกลับบ้านเราหวังว่าคุณจะเดินทางอย่างสะดวกสบาย ก่อนที่คุณจะกลับบ้านถ้าเที่ยวบินของคุณเป็นช่วงบ่าย คุณยังสามารถไปทัวร์ดูวาฬได้อีก ซึ่งทัวร์จะออกเดินทางจากท่าเรือเก่าในดาวน์ทาวน์เรคยาวิกและเรือจะพาคุณออกไปยังอ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxaflói) เพื่อไปดูวิวเมืองเรคยาวิกจากนอกชายฝั่ง เป็นการบอกลาที่น่าประทับใจมาก!! หรือคุณจะไปช้อปนาทีสุดท้ายที่ในเมืองก่อนขึ้นรถแอร์พอร์ตชัตเทิลเดินทางไปยังสนามบินก็ได้ แน่นอนว่าคุณยังไม่จำเป็นต้องรีบไปจากไอซ์แลนด์! คุณสามารถยืดเวลาในไอซ์แลนด์ต่ออีกสักหนึ่งวันและไปเที่ยวผจญภัยให้สนุกด้วยกันกับเรา! คุณสามารถใช้หนึ่งวันพิเศษนี้ไปนั่งเฮลิคอปเตอร์หรือขี่ม้า ขี่ ATV บนเขาและไปถ้ำลาวา หรือเล่นใหญ่โดยเข้าไปในภูเขาไฟเลยก็ยังได้ โดยการเข้าไปในภูเขาไฟนั้นคุณจะลงไปใต้พื้นดินลึก 100 เมตร (328 ฟุต) เพื่อไปดูโถงแมกมาแห่งทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Þríhnúkagígur) หากคุณชอบความเย็นคุณน่าจะไปทริปธารน้ำแข็งและเข้าไปในอุโมงค์หรือห้องโถงใต้ธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ดู หรือคุณจะเอ้อระเหยอยู่ในเรคยาวิกต่อก็ได้เพื่อเที่ยวให้ทั่วทุกมุม หากคุณต้องการยืดเวลาทัวร์ให้ยาวขึ้น เราจะแค่เลื่อนบริการไปส่งที่สนามบินของคุณให้เป็นวันถัดไปแทนและให้คุณได้สนุกกับช่วงเวลาวันหยุดเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย แค่เพิ่มอีกวันเดียวก็คุ้มค่ามากแล้ว!