แพ็คเกจ 10 วัน ขับรถเที่ยว| ไฮไลต์วงแหวนทองคำ & คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
มีแนวโน้มที่จะขายออกเร็ว ๆ นี้ แผนการเที่ยวรายวัน
วัน 1 - เดินทางมาถึงเรคยาวิก
เริ่มด้วยการรับรถจากสนามบินเคฟลาวิกและขับไปยังที่พักของคุณในดาวน์ทาวน์เรคยาวิก ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง.
หลังจากเช็คอินเข้าที่พักในเรคยาวิกเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมออกมาใช้เวลาเที่ยวชมในเมืองให้คุ้มค่าสมกับที่เรคยาวิกเป็นเมืองที่มีสีสันมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป คุณสามารถไปชมพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง หรือไปรับประทานอาหารในร้านอาหารและออกเที่ยวตามบาร์ให้สนุกสุดเหวี่ยง
คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในเมืองเรคยาวิกอันสวยงาม
อ่านเพิ่มวัน 2 - วงกลมทองคำ
วันที่สองคุณจะออกไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์ซึ่งอยู่บนเส้นทางวงกลมทองคำ จุดแรกที่จะแวะบนเส้นทางนี้คืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir National Park) ที่นี่คุณจะได้เดินอยู่ระหว่างหุบเขารอยแยกของแนวเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติกและสำรวจพื้นที่ซึ่งมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์ และเนื่องจากในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของสภาแห่งแรกของโลกมาก่อน องค์การยูเนสโกจึงได้ประกาศให้บริเวณนี้เป็นแหล่งมรดกโลกอีกหนึ่งแห่ง คุณสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมดำน้ำสน็อกเกิ้ลในรอยแยกซิลฟราที่ตั้งอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกของสองทวีปเข้าไปในทริปได้ โดยที่ซิลฟรานี้มีน้ำใสแจ๋วราวกับคริสตัลทีเดียว
สถานที่ต่อไปคือทุ่งน้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ที่คุณจะได้เห็นน้ำพุร้อนมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) และไกเซอร์ที่มีชื่อว่าไกเซอร์ ถัดจากนั้นไปอีกไม่กี่กิโลเมตรก็จะเป็นน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) อันทรงพลังซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์ เส้นทางชมน้ำตกที่นี่จะพาคุณไปยืนใกล้ชิดกับน้ำตกมากจนคุณรู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาลของธรรมชาติของน้ำตกแห่งนี้อย่างเต็มที่
คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่ธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) เข้าไปในทริปนี้ได้ด้วย โดยทัวร์จะมีบริการมารับที่บริเวณน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งการขี่สโนว์โมบิลก็เป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่เรียกอะดรีนาลีนได้เป็นอย่างดีและจะทำให้คุณได้เห็นวิวสวยๆ ด้วย หรือถ้าหากทั้งดำน้ำตื้นและสโนว์โมบิลยังไม่น่าสนใจสำหรับคุณ ในวันนี้ก็จะยังมีทัวร์อื่นที่สามารถเพิ่มเข้าไปได้อีก เช่น ทัวร์ขี่ม้า
คืนนี้คุณจะเข้าพักที่เมืองควอลส์เวิลลูร์ (Hvolsvöllur) หรือเมืองที่อยู่ใกล้ๆ กัน
อ่านเพิ่มวัน 3 - ชายฝั่งทางใต้
ในวันที่สามคุณจะได้ไปชมน้ำตกอันยิ่งใหญ่สองแห่ง คือน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์(Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) และเมื่อเดินทางลงไปตามชายฝั่งอีกหน่อยใกล้กับหมู่บ้านวิก (Vík) ก็จะถึงหาดเรย์นิสฟยารา(Reynisfjara) อันสวยงามซึ่งมีทรายสีดำจากภูเขาไฟ รวมทั้งดีร์โฮเลย์ (Dyrhólaey) และเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ซึ่งเป็นหินทรงประหลาด บริเวณนี้เหมาะสำหรับดูนกพัฟฟินด้วย
วันนี้คุณจะมีโอกาสได้ผจญภัยบนธารน้ำแข็งด้วย! คุณสามารถแข่งกันขี่สโนว์โมบิลข้ามบริเวณที่ยื่นออกมาจากธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) หรือจะไปเที่ยวชมถ้ำคริสตัลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ก็ได้ ซึ่งที่นี่เป็นถ้ำคริสตัลเพียงแห่งเดียวที่เปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่คุณต้องเดินทางเข้าไปด้วยรถซุปเปอร์จี๊ปเท่านั้น
คุณยังมีตัวเลือกสำหรับกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งอีกสองแห่งในวันนี้ คุณสามารถเลือกขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนเขาในตอนเช้าที่บริเวณด้านบนสุดของธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) ซึ่งรับรองว่าในตอนเช้าแบบนี้ไม่มีอะไรจะทำให้คุณตาสว่างและรู้สึกสดชื่นได้เท่ากับการไปเที่ยวธารน้ำแข็งแล้ว หรือคุณจะเลือกไปที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ในช่วงบ่ายๆ แทนก็ได้ โดยคุณจะได้เดินไปบนน้ำแข็งสีขาวที่ยื่นออกมาจากธารน้ำแข็งอันงดงามในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull)
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าคุณโปรดปรานการเดินขึ้นเขาแล้วล่ะก็ที่นี่มีเส้นทางเดินที่สวยงามอยู่หลายเส้นทาง รวมถึงเส้นทางที่เดินไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่ไหลผ่านหน้าผาเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมด้วย
ระหว่างทางกลับที่พักที่อยู่แถวบริเวณวัทนาโจกุล คุณจะต้องผ่านทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) อันสวยงามที่มีวิวสวยๆ ของภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมามากมายซึ่งแตกตัวออกมาจากธารน้ำแข็งในบริเวณใกล้เคียงและลอยเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางทะเลสาบอันสงบนิ่ง แต่ถ้าวันนี้คุณเหนื่อยเกินไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลเพราะว่าวันพรุ่งนี้คุณจะมีเวลาในการสำรวจบริเวณนี้อย่างเหลือเฟือ
อ่านเพิ่มวัน 4 - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน & ฟยอร์ดทางตะวันออก
วันนี้คุณจะไปเที่ยวทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งมีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ หากคุณต้องการคุณสามารถเลือกซื้อทัวร์ออกไปชมภูเขาน้ำแข็งหลายรูปทรงหลายขนาดที่ลอยอยู่ในทะเลสาบแบบใกล้ชิดได้ โดยมีให้เลือกทั้งเรือแบบสะเทินน้ำสะเทินบกและเรือยางท้องแบนที่มีขนาดเล็กกว่า
คุณห้ามพลาดไปเดินเล่นบนหาดทรายดำที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ กันกับทะเลสาบเป็นอันขาด หาดแห่งนี้ชื่อว่าหาดไดมอนด์บีชเนื่องจากมีภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากมายกระจัดกระจายอยู่เต็มหาดและพวกมันก็สะท้องแสงสวยงามราวกับประกายจากเพชรเลย
ต่อจากนั้นคุณก็จะเริ่มออกเดินทางซิกแซกข้ามไปตามฟยอร์ดทางตะวันออกผ่านหมู่บ้านประมงอันเงียบสงบหลายแห่งและจะได้ชมวิวชายฝั่งทะเลสวยๆ ไปตลอดทาง
อ่านเพิ่มวัน 5 - มิวาทน์
หลังจากที่ขับรถมาได้ห้าวันตอนนี้คุณก็จะเดินทางขึ้นเหนือมาจนถึงทะเลสาบมิวาทน์ (Mývatn) ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาจากแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพมากมายที่มีอยู่ในบริเวณ รวมถึงทุ่งพลังงานความร้อนใต้พิภพนอมัสการ์ด (Námaskarð) ปล่องภูเขาไฟเทียมสกูตูสตาดากีการ์ (Skútustaðagígar) ดิมมูบอร์กิร์ (Dimmuborgir) ที่มีลาวาก่อตัวเป็นรูปร่างประหลาด และภูเขาไฟที่คราฟลา (Krafla) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่มีคนไปเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์
หลังจากสำรวจสถานที่มหัศจรรย์เหล่านี้เสร็จแล้ว คุณจะได้ผ่อนคลายด้วยการไปแช่ตัวในน้ำร้อนจากแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Mývatn Nature Baths) คืนนี้คุณจะพักที่ในอาคูเรยรี่.
อ่านเพิ่มวัน 6 - น้ำตกเดตติฟอสส์ - หุบเขาเอาส์บิร์กิ - ฮูสาวิค
ใช้วันที่หกเพื่อสำรวจทะเลสาบมีวาท์น (Mývatn) อีกเล็กน้อยและสภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์. ขับรถผ่านโจกุลส์เอากลูฟูร์ (Jökulsárgljúfur)ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลล์ (Vatnajökull) พร้อมเยี่ยมชมหุบเขาเอาส์ปิร์กิ (Ásbyrgi canyon). ซึ่งเป็นรูปเกือกม้าที่น่าสนใจ ตำนานในท้องที่บอกว่าสิ่งนี้เกิดจากม้าแปดขา 'Sleipnir' ของพระเจ้านอร์โอดินที่สร้างกีบขนาดยักษ์บนพื้น. คุณยังสามารถเยี่ยมชมน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) อันยิ่งใหญ่. น้ำตกเดตติฟอสเป็นน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป ขนาดยักษ์สูงตระหง่านและเสียงดังกึกก้องทำให้มันเป็นจุดแวะที่น่าประทับใจ. น้ำตกเดตติฟอสยังเป็นจุดเด่นที่หนังRidley Scott ภาพยนตร์แนวไซไฟในปี2012อีกด้วย. จากนั้นคุณสามารถมุ่งหน้าไปยังเมืองทางตอนเหนือเมืองฮูสาวิก (Húsavik). หมู่บ้านริมทะเลแห่งนี้ได้รับการขนานนามอย่างไม่เป็นทางการว่าเป็นเมืองดูวาฬหลวงของยุโรป. จากฮูสาวิกคุณสามารถใช้เวลาเดินทางลงไปในน่านน้ำของภาคเหนือเพื่อดูยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลเหล่านี้ หากคุณต้องการชมปลาวาฬมีสองตัวเลือก คุณสามารถทัวร์ชมปลาวาฬแบบดั้งเดิมหรือเลือกทัวร์ที่มีขนาดเล็กลงซึ่งจะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล. หากคุณรักการพักผ่อนในฮูสาวิก. คุณสามารถเลือกที่จะเยี่ยมชมอ่างอาบน้ำจีโอซีบาธ ( GeoSea) ประสบการณ์สปานี้แตกต่างจากสปาความร้อนใต้พิภพอื่น ในไอซ์แลนด์, น้ำของจีโอซี นั้นมาจากมหาสมุทร เป็นน้ำทะเลเค็มที่อบอุ่นได้รับการกล่าวถึงว่ามีคุณสมบัติในการซ่อมแซมและคุณจะสนุกไปกับทิวทัศน์ที่น่าประทับใจของภูมิทัศน์โดยรอบ จากนั้นคุณจะใช้เวลาทั้งคืนในเมืองอาคุย์เรย์รี่.
อ่านเพิ่มวัน 7 - อาคูเรยรี่ (ต่อ) - หมู่บ้านชาวประมงและชุมชนประวัติศาสตร์
ในวันที่เจ็ดคุณจะมีเวลาในการเที่ยวรอบๆ อาคูเรยรี่มากขึ้น คุณจะผ่านบริเวณภูเขาโทรลลาสกากิ (Tröllaskagi) อันสวยงาม ผ่านหมู่บ้านประมงปลาเฮอร์ริ่งอันเก่าแก่แห่งซิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjörður) และฮอฟซอส (Hofsós) ที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับวิวสวยๆ ในขณะที่แช่สระน้ำร้อนอยู่ในเมืองได้
ถ้าคุณชอบพวกงานหัตถกรรมพื้นบ้านไอซ์แลนดิกหรือถ้าคุณมีเด็กๆ ร่วมทริปมาด้วย เราแนะนำให้ไปแวะที่ฟาร์มสโตร์ฮอลล์ (Stórhóll) ด้วย ซึ่งที่ฟาร์มจะมีแกลเลอรี่งานฝีมือที่ชื่อว่ารูนาลิสต์ (Rúnalist) ที่นั่นเด็กๆ จะได้เล่นกับแกะ แพะ ม้า เป็ด ไก่ กระต่าย สุนัข และแมวในขณะที่คุณใช้เวลาเพลิดเพลินอยู่กับผลงานหัตถกรรมจากขนสัตว์ หนังแซลมอนหรือหนังปลาค้อด
คืนนี้พักค้างคืนที่เบลินดูโอส (Blönduós) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
อ่านเพิ่มวัน 8 - คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
วันนี้คุณจะมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ระหว่างทางจะผ่านเทือกเขาวัทน์สดาลฮอลาร์ (Vatnsdalshólar) และโบสถ์ธิงเกย์ยาร์เคิกยา (Þingeyarkirkja)
คุณอาจจะอยากแวะที่บ้านลองเฮ้าส์ที่เอริกส์สตาดีร์ (Eiríksstaðir) ซึ่งเป็นบ้านของชาวไวกิงชื่อดัง เอริกเดอะเรด ผู้เป็นบิดาของเลฟเดอะลักกี้ ซึ่งเป็นชาวยุโรปคนแรกที่เดินเรือไปยังทวีปอเมริกาเหนือ และคุณยังสามารถเข้าไปเที่ยวที่สติกกิโฮลมูร์ (Stykkishólmur) หมู่บ้านชาวประมงที่มีบรรยากาศสวยงามริมอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์ (Breiðafjörður) ได้ด้วย
จากท่าเรือบริเวณนี้คุณสามารถเดินทางออกไปยังเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อว่าซูกานดิเซย์ (Súgandisey) เพื่อชมวิวพาโนรามาสวยๆ ของเมือง ทะเล และภูเขาที่อยูรอบๆ
มงกุฎอัญมณีแห่งคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสคือธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull) และภูเขาไฟที่อยู่ในใจกลางของอุทยานแห่งชาติ.หากคุณต้องการเพิ่มการผจญภัยเพิ่มเติมคุณสามารถเลือกที่จะเพิ่มทัวร์สโนว์แคทของธารน้ำแข็งนี้เป็นกิจกรรมพิเศษ คุณจะถูกพาไปที่เชิงเขาก่อนที่คุณจะขึ้นไปบนเนินเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและในที่สุดก็มาถึงจุดสูงสุดพร้อมที่จะถ่ายภาพที่น่าทึ่ง. และบริเวณใกล้ๆ แถวนั้นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามอยู่หลายแห่ง เช่น หาดกรวดดำดยูปาลองส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) เมืองเฮลล์นาร์ (Hellnar) และหมู่บ้านอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi)
คืนนี้พักค้างคืนในที่พักสวยๆ บนคาบสมุทรสไนล์แฟลชเนส
อ่านเพิ่มวัน 9 - ไอซ์แลนด์ตะวันตก
สำหรับวันที่เก้านี้คุณสามารถออกไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่หลากหลายในไอซ์แลนด์ทางตะวันตก ซึ่งรวมถึงไอซ์แลนดิกเซ็ตเทิลเมนต์ที่บอร์การ์เนส (Borgarnes) ซึ่งเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์และเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป
จากนั้นก็อย่าลืมแวะไปชมน้ำตกเฮินฟอซซ่า & บาร์นาฟอสส์ (Hraunfossar & Barnafoss) ด้วย
สำหรับผู้ที่ลุ่มหลงในประวัติศาสตร์อาจจะตื่นตาตื่นใจกับสนอร์ราส์ทอฟา (Snorrastofa) สถาบันวิจัยเกี่ยวกับสมัยยุคกลางที่ตั้งอยู่ในเรย์คอลท์ (Reykholt) ที่นักการเมือง กวี และนักประวัติศาสตร์สนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) ได้เขียนนิยายซากาเกี่ยวกับกษัตริย์เฮมสกรินกลา (Heimskringla) แห่งนอร์เวย์ขึ้นที่นี่เมื่อศตวรรษที่ 13 และสนอร์รียั่งมีชื่อเสียงจากการประพันธ์ "เอ็ดดา" ซึ่งเปรียบเสมือนไบเบิ้ลแห่งเทพปกรณัมนอร์สโบราณด้วย
ในวันนี้คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ถ้ำคริสตัลอันใดอันหนึ่งเข้าไปก็ได้ คุณสามารถไปดูถ้ำคริสตัลที่ถูกสร้างขึ้นที่ลางโจกุล (Langjökull) หรือเลือกไปชมอุโมงค์ลาวาในถ้ำวิดเกลมิร์ (Viðgelmir) นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าไปชมภายในห้องโถงแมกมากับทัวร์ที่พาเข้าไปชมในภูเขาไฟ “อินทูเดอะโวลเคโน”
ระหว่างเดินทางกลับเรคยาวิกคุณยังสามารถแวะเที่ยวที่น้ำตกฟอสซาตุน (Fossatún) ซึ่งเชื่อกันว่ามียักษีโทรลล์ที่ชื่อว่าดรีฟา (Drifa) คอยคุ้มกันอยู่ ก่อนที่จะเดินทางเข้าที่พักซึ่งอยู่ในเมืองหลวง คืนนี้คุณจะนอนที่เรคยาวิกอีกหนึ่งคืน
อ่านเพิ่มวัน 10 - ลาก่อนไอซ์แลนด์
นำรถไปส่งคืนที่สนามบินเคฟลาวิกและเตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน สำหรับคนที่มีเที่ยวบินช่วงเย็นและอยากที่จะไปชมบลูลากูน คุณจะได้ท่องเที่ยวทุกสถานที่ก่อนออกเดินทางไปสนามบิน. นี่คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนขณะที่คุณอาบน้ำในน้ำอุ่นและน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยเมื่อคุณมองย้อนกลับไปในการผจญภัยที่เหลือเชื่อที่คุณเพิ่งมีในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง หากเที่ยวบินของคุณออกช่องเย็นมีหลายสิ่งให้ทำในเรคยาวิก หากคุณมีเที่ยวบินช่วงเช้สกลับบ้านเราหวังว่าคุณจะเดินทางอย่างสะดวกสบาย
รับรองว่าพอขึ้นจากน้ำคุณจะตัวเบาสบายเดินทางขึ้นเครื่องบินกลับบ้านอย่างมีความสุขและจะต้องรู้สึกโหยหาอยากจะกลับมาเที่ยวที่ไอซ์แลนด์อีกอย่างแน่นอน!
อ่านเพิ่ม สิ่งที่ควรนำไป
ใบขับขี่
เสื้อผ้าที่อบอุ่น
ชุดว่ายน้ำ
รองเท้าสำหรับปีนเขา
ที่พัก
ดูระดับที่พักของเราและผู้บริการพาร์ทเนอร์ของเราใต้แผนการเที่ยวของแต่ละวันด้านล่าง. สำหรับที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะจัดทำในฮอสเทลและที่นอนแบบหอพัก. สำหรับการจองแบบคนเดียวจะจัดเตรียมให้เป็นห้องนอนเดี่ยว, และสำหรับการจองสำหรับสองคนหรือมากกว่านั้นจะจัดเป็นห้องเตียงคู่หรือทริปเปิ้ลรูม. วัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้กับผู้ปกครอง. หากต้องการห้องเพิ่ม, ค่าเสียหายเพิ่มเติมอาจจะถูกคิดเพิ่ม. Guide to Iceland จะบริการคุณเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุดพร้อมด้วยที่พักที่ถูกจองผ่านพาร์ทเนอร์ของเรา. เราขอเรียนให้ท่านทราบว่าโรงแรมในประเทศไอซ์แลนด์มีจำกัด และหากว่าพาร์ทเนอร์ของเราได้ทำการจองเต็มในวันที่คุณต้องการ เราจะต้องหาสถานที่อื่นในระดับเดียวกันให้กับคุณ. ขอเรียนให้ทราบว่าที่พักระดับคุณภาพไม่มีในทุกพื้นที่. ที่พักแบบคอมฟอร์ทจะได้ทำการจัดการในพื้นที่ที่ไม่มีที่พักระดับนั้น. เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ตรงกับความต้องการของคุณ, และเหตุนั้นอาจจคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น. กดเลือกวันเพื่อที่จะหาวันที่ว่าง
อาหาร
คุณสามารถเพิ่มอาหารลงไปในการจองของคุณได้แล้ว.
เลือกเพิ่มอาหารค่ำลงไปในการจองของคุณ แล้วเราจะบริการเวาท์เชอร์อาหารลงไปในการจองของคุณ. เราจะเลือกอาหารให้คุณจากร้านอาหารระดับเยี่ยม เพื่อให้เข้ากับแผนการท่องเที่ยวของคุณ.
ที่ร้านอาหารคุณจะได้รับเมนูอาหารเป็นเซ็ท ซึ่งคุณสามารถเลือกเป็น เนื้อสัตว์,ปลา หรือ มังสวิรัติก็ได้. หากว่าคุณต้องการอย่างอื่นก็สามารถทำได้ โดยเวาท์เชอร์จะทำหน้านี้เป็นคูปองทนแทนอาหารที่ไม่ได้อยุ่ในเมนูอาหารเซ็ทแทน. กรุณาบอกให้ร้านอาหารทราบล่วงหน้า หากว่าคุณมีคความต้องการอาหารที่พิเศษ. เวาท์เชอร์อาหารไม่สามารถขอเงินคืนได้.
รถ
คุณสามารถดูรถเช่าสำหรับการขับรถเองได้ด้านล่าง. รถของเรามีแต่รุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน ไปจนถึง 2 ปี. สำหรับรถระดับซูเปอร์บัดเจท จะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ในขณะที่รถรุ่นอื่นนั้นมาพร้อมด้วยประกันกรวด (GP) และประกันเพิ่มการคุ้มครองของผู้เช่าและค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW). รถทุกประเภทมาพร้อมกับ GPS และ ฟรีไวไฟ. คุณสามารถใช้ดาต้าแบบไร้ลิมิต ที่สามารถต่อได้ถึง 10 เครื่องต่อหนึ่งครั้ง. เราขอเรียนให้ทราบว่าการขับออกนอกถนนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย. รถทุกรุ่นมาพร้อมด้วยกับ GPS และ ไวไฟ. คุณสนุกไปกับดาต้าที่ไร้ลิมิตที่สามารถต่อสัญญานได้ถึง 10 เครื่อง. บริษัทรถเช่ามีบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง. อายุจำกัดในแต่ละระดับสามารถดูได้ข้างล่าง. ผู้ขับต้องแสดงใบขับขี่ที่มีอายุมากกว่าอย่างน้อย 1 ปี. เราขอแนะนำให้เลือกรถรุ่นบัดเจท 4x4 สำหรับหน้าร้อน และ รุ่น คอมฟอร์ท 4x4 สำหรับหน้าหนาว.
ประกันการยกเลิก
ประกันนี้จะการันตีว่าหากคุณยกเลิกทัวร์แล้วคุณจะได้เงินคืนแบบเต็มจำนวน หักจากค่าประกัน.
ค่าประกันจะขึ้นอยู่กับเวลาของทัวร์ และ แพ็คเกจของคุณ. ค่าประกันสำหรับ 5วันราคา 5000 โครน่า ต่อคน. ค่าประกันจะเพิ่มคนละ1000โครน่าต่อวัน ในวันถัดไป.
การยกเลิกควรทำมากกว่า 48 ชั่วโมงก่อนเวลาเริ่มที่เชียนในเวาท์เชอร์. เพื่อทำการยกเลิก และ รับเงินคืน คุณเพียงแค่ติดต่อเรามาที่ info@guidetoiceland และ ทำการขอเงินคืน.
เราขอเรียนให้ทราบว่าประกันนี้ครอบคลุมการยกเลิกของทัวร์ และ แพ็คเกจทั้งหมด. การยกเลิกของบริการบางอัน นั้นไม่สามารถขอเงินคืนนี้ แต่ได้ครอบคลุมไว้หมดแล้ว หากคุณทำการยกเลิกแพ็คเกจทั้งหมดเลย.